นายยาสึฮิเดะ นากายามะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ชาติประชาธิปไตยเสี่ยงที่จะทำให้เมียนมาตกอยู่ในอิทธิพลของจีน หากชาติเหล่านี้ใช้มาตรการโต้ตอบการทำรัฐประหารในเมียนมาจนกระทบต่อช่องทางสื่อสารกับเหล่านายพลผู้ทรงอิทธิพล
นายนากายามะกล่าวว่า "ถ้าเราไม่จัดการเรื่องนี้ให้ดี เมียนมาอาจจะยิ่งห่างเหินกับชาติประชาธิปไตยไปมากกว่าเดิม และเข้าร่วมกับจีนแทน" พร้อมเสริมว่า ญี่ปุ่นควรหารือกลยุทธ์ร่วมกันกับชาติพันธมิตร
ทั้งนี้ กองทัพเมียนมาเข้ายึดอำนาจเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา พร้อมประกาศภาวะฉุกเฉิน และคุมตัวนางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐและผู้นำคนอื่นๆ และได้ประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศเป็นเวลา 1 ปี ขณะที่สัญญาว่าจะมีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปหลังจากนั้น
กองทัพเมียนมาอ้างเหตุผลในการก่อรัฐประหารในครั้งนี้ว่า เกิดจากการทุจริตในการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้พรรคเอ็นแอลดีของนางออง ซาน ซูจี คว้าชัยชนะอย่างถล่มทลาย ขณะที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประสบความล้มเหลวในการจัดการเลือกตั้ง ท่ามกลางความผิดปกติในรายชื่อของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง
ญี่ปุ่นซึ่งมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเมียนมาอย่างยาวนาน ตอบโต้โดยการเรียกร้องให้ปล่อยตัวนางซูจี และสมาชิกรัฐบาลพลเรือนของเธอ และฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตย
นายนากายามะกล่าวว่า ความเคลื่อนไหวใด ๆ ที่จะระงับโครงการความร่วมมือระหว่างญี่ปุ่นกับกองทัพเมียนมาอาจส่งผลให้จีนมีอิทธิพลมากขึ้น ซึ่งอาจบ่อนทำลายความมั่นคงในภูมิภาค
"ถ้าเราหยุด ความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพเมียนมากับกองทัพจีนจะยิ่งแน่นแฟ้นขึ้น และพวกเขาจะยิ่งออกห่างจากประเทศเสรี เช่น สหรัฐ ญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักร" นายนากายามะกล่าว "ผมคิดว่านั่นเป็นความเสี่ยงต่อความมั่นคงในภูมิภาค"