ตำรวจเมียนมาได้ตั้งข้อหากับประธานาธิบดีวิน มินต์ว่า เขาละเมิดมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ภายใต้กฎหมายจัดการภัยพิบัติทางธรรมชาติ และเรียกร้องให้ศาลสั่งควบคุมตัวปธน.มินต์เป็นเวลา 15 วันจนถึงวันที่ 15 ก.พ.
ทั้งนี้ ตำรวจระบุว่า ปธน.มินต์และครอบครัวของเขาได้พบปะกับประชาชนในการรณรงค์หาเสียงของพรรคพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) เมื่อวันที่ 30 ก.ย.ปีที่แล้วก่อนการเลือกตั้งทั่วประเทศในเดือนพ.ย.
นอกจากนี้ ตำรวจเมียนมายังได้ตั้งข้อหานางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐของเมียนมาวัย 75 ปี ฐานนำเข้าและครอบครองอุปกรณ์สื่อสารโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเธอจะถูกคุมตัวไปจนถึงวันที่ 15 ก.พ. เพื่อสอบสวนเพิ่มเติมด้วย
ตำรวจยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อให้มีการกักตัวนางซูจีในบ้านพักจนถึงวันดังกล่าว หลังจากที่ตำรวจพบวิทยุสื่อสาร 6 เครื่องในบ้านพักของนางซูจีในกรุงเนปิดอว์ โดยวิทยุสื่อสารเหล่านี้นำเข้ามาผิดกฎหมายและไม่มีใบอนุญาต
คำร้องดังกล่าวขอให้กักตัวนางซูจีต่อไปเพื่อสอบสวนพยาน รวบรวมหลักฐาน และหาที่ปรึกษาด้านกฎหมายหลังจากการสอบสวนนางซูจีเสียงเลือกตั้งเมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังกองทัพเมียนมาเข้ายึดอำนาจรัฐบาลเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา พร้อมกับควบคุมตัวนางซูจี และผู้นำคนอื่นๆ และได้ประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศเป็นเวลา 1 ปี โดยกองทัพได้มอบอำนาจการปกครองให้กับนายพลมิน อ่อง หล่าย
กองทัพได้อ้างเหตุผลในการก่อรัฐประหารในครั้งนี้ว่า เกิดจากการทุจริตในการเลือกตั้งเมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้พรรค NLD ของนางซูจี คว้าชัยชนะอย่างถล่มทลาย
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้การเปลี่ยนผ่านสู่ระบอบประชาธิปไตยในเมียนมาต้องหยุดชะงัก ทั้งยังถูกประณามจากชาติตะวันตกด้วย รวมถึงสหรัฐ
นางซูจีได้เคยถูกกักบริเวณในบ้านเป็นเวลาประมาณ 15 ปีจนถึงปี 2553 ฐานสนับสนุนการผลักดันประเทศไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย โดยเธอได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในเมียนมา แต่ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากต่างชาติจากข้อกล่าวหาที่ว่ารัฐบาลเมียนมาได้ทำการกดขี่ข่มเหงต่อชาวโรฮิงญา