รัฐบาลสหรัฐประกาศเมื่อวานนี้ว่า จะกลับไปร่วมมือกับคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (United Nations Human Rights Council - UNHRC) หลังจากถอนตัวไปเมื่อกว่า 2 ปีที่แล้ว ซึ่งนับเป็นการตัดสินใจครั้งล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพื่อกลับไปส่งเสริมความร่วมมือพหุภาคี
นายแอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐยอมรับว่าการใช้เครื่องมือเพื่อความร่วมมือพหุภาคีอย่างมีประสิทธิภาพนั้นเป็นหัวใจของนโยบายต่างประเทศในรัฐบาลปธน.ไบเดน ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การทูตและสิทธิมนุษยชน นอกจากนี้นายบลินเคนยังได้กล่าวว่า สหรัฐจะกลับไปร่วมมือกับ UNHRC อย่างแข็งขันโดยทันที โดยในช่วงแรกจะเริ่มจากการทำหน้าที่ผู้สังเกตการณ์ก่อน
ทั้งนี้ สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สหรัฐหวังว่าจะได้รับเลือกเป็นสมาชิกเต็มตัวของ UNHRC ซึ่งมีสมาชิกทั้งหมด 47 ประเทศ โดยคณะมนตรีฯ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในกรุงเจนีวานั้น กำหนดจำนวนสมาชิกตามตำแหน่งทางภูมิศาสตร์
รัฐบาลสหรัฐภายใต้การบริหารของอดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์นั้นถอนตัวจาก UNHRC ไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2561 เพื่อประท้วงแนวทางการดำเนินงานของ UNHRC ที่รัฐบาลสหรัฐในขณะนั้นมองว่ามีการเลือกปฏิบัติต่ออิสราเอล
นายสเตเฟน ดูจาร์ริค โฆษกประจำสหประชาชาติระบุว่า นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติชื่นชมการตัดสินใจของรัฐบาลสหรัฐในการกลับมาร่วมมือกับ UNHRC และนายดูจาร์ริคยังกล่าวเสริมด้วยว่า "ทางสหประชาชาติหวังว่าจะได้เห็นสหรัฐเข้ามามีบทบาทสำคัญในคณะมนตรีฯ ในการรับมือกับปัญหาต่างๆ ที่มีความเร่งด่วน"