ชาวเมียนมาหลายแสนคนยังคงออกมาชุมนุมต่อต้านการทำรัฐประหารเป็นวันที่ 4 ขณะที่มีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในหลายเมือง เช่น เนปิดอว์ และย่างกุ้ง ส่งผลให้ตำรวจยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อสลายการชุมนุม
นอกจากนี้ ตำรวจได้ใช้กระสุนยางและฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง
โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองเนปิดอว์เปิดเผยว่า มีการส่งตัวผู้ชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บมาทำการรักษา 2 ราย โดยรายหนึ่งเป็นหญิงสาวถูกยิงด้วยกระสุนจริงเข้าที่ศีรษะ อาการสาหัส ส่วนอีกรายหนึ่งถูกยิงเข้าที่หน้าอก แต่อาการไม่รุนแรง
แพทย์ระบุว่า หญิงสาวที่ถูกยิงเข้าที่ศีรษะ อาจมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน และขณะนี้ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
เมื่อวานนี้ ตำรวจในเมืองเนปิดอว์ได้ขู่ใช้กระสุนจริงจัดการกับกลุ่มผู้ประท้วง โดยตำรวจได้วางกำลังเป็น 3 แถว พร้อมกับชูป้ายแสดงข้อความ "เขตใช้กระสุนจริง หากผู้ชุมนุมบุกฝ่าตำรวจแนวที่ 3"
กองทัพเมียนมายังได้ประกาศเคอร์ฟิวในเมืองย่างกุ้ง และมัณฑะเลย์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ
ทั้งนี้ ภายใต้คำสั่งเคอร์ฟิว ชาวเมียนมาจะไม่สามารถออกจากเคหสถานในช่วงเวลา 20.00-04.00 น. และประชาชนไม่สามารถรวมตัวกันมากกว่า 5 คน
ชาวเมียนมายังคงพากันออกมาชุมนุมต่อต้านเผด็จการทหาร แม้ผู้นำกองทัพเมียนมายีนยันว่าจะจัดการเลือกตั้งใหม่ และจะสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริง
นายพลมิน อ่อง หล่ายกล่าวแถลงการณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์วานนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่กองทัพเมียนมาเข้ายึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 ก.พ. โดยเขายีนยันว่าจะจัดการเลือกตั้งใหม่ แม้ไม่ได้ระบุเวลาใด และย้ำข้อกล่าวอ้างที่ว่าการเลือกตั้งเมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) คว้าชัยชนะนั้น มีการโกงการเลือกตั้ง
นายพลมิน อ่อง หล่ายกล่าวย้ำว่า รัฐบาลทหารจะสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริงและมีระเบียบวินัย โดยจะแตกต่างจากการปกครองของทหารในอดีต