อุปทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐขอเรียกร้องให้ชาติสมาชิกสหประชาชาติร่วมคว่ำบาตรเมียนมาเหมือนกับสหรัฐ เพื่อกดดันเมียนมาให้กลับคืนสู่ระบอบประชาธิปไตยโดยเร็ว
ขณะเดียวกัน สมาชิกรัฐสภาประมาณ 300 รายในเมียนมา ยังได้เรียกร้องให้สหประชาชาติเข้ามาสอบสวนพฤติกรรมของกองทัพเมียนมาที่เข้าข่ายละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงด้วย ไม่ว่าจะเป็นการจับกุมพลเรือนและยิงผู้ประท้วง
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังเมื่อวานนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ ได้ประกาศแผนคว่ำบาตรบรรดาผู้นำกองทัพเมียนมาที่อยู่เบื้องหลังการทำรัฐประหารเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และเรียกร้องให้นานาประเทศร่วมกันกดดันเมียนมาให้กลับคืนสู่ระบอบประชาธิปไตย
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวไม่ได้กระทบต่อบรรดาผู้นำกองทัพเมียนมาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผลประโยชน์ทางธุรกิจ และสมาชิกในครอบครัวผู้นำเหล่านั้นด้วย
นอกจากนี้ ปธน.ไบเดนเปิดเผยว่า สหรัฐยังเตรียมใช้มาตรการ "ควบคุมการส่งออกอย่างเข้มงวด" และจะสกัดกั้นไม่ให้บรรดานายพลเข้าถึงกองทุนวงเงินราว 1 พันล้านดอลลาร์ที่รัฐบาลเมียนมาถืออยู่ในสหรัฐ แต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
อย่างไรก็ดี สหรัฐจะยังคงให้การสนับสนุนด้านการดูแลสุขภาพ ประชาสังคม และภาคส่วนอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อชาวเมียนมาโดยตรงต่อไป พร้อมทั้งประณามการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้กำลังปราบปรามประชาชนที่ประท้วงต่อต้านกองทัพอย่างสันติ
ทั้งนี้ กองทัพเมียนมาเข้ายึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 ก.พ. พร้อมกับควบคุมตัวนางออง ซาน ซูจี และผู้นำคนอื่นๆ และได้ประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศเป็นเวลา 1 ปี โดยอ้างว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งประสบความล้มเหลวในการจัดการเลือกตั้ง จนทำให้เกิดการโกงเลือกตั้งในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) คว้าชัยชนะอย่างถล่มทลาย