สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง (AAPP) เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านการก่อรัฐประหารในเมียนมาเสียชีวิตเพิ่มอีกอย่างน้อย 22 รายเมื่อวานนี้ที่เขตไลง์ตายาในเมืองย่างกุ้ง โดยเจ้าหน้าที่ได้ยิงใส่กลุ่มผู้ประท้วง หลังเกิดเหตุไฟไหม้โรงงานทุนจีนในพื้นที่ดังกล่าว
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังมีกลุ่มบุคคลไม่ทราบฝ่ายจุดไฟเผาโรงงานสิ่งทอที่เขตไลง์ตายา โดยโรงงานเหล่านี้เป็นโรงงานที่มีนักลงทุนจีนเป็นนายทุน ส่งผลให้มีพนักงานคนจีนได้รับบาดเจ็บและหาทางออกไม่ได้ ทางสถานทูตจีนจึงขอให้ทางการเมียนมาเข้ามาปกป้องทรัพย์สินและพลเมืองจีน
จีนถูกมองว่าเป็นผู้สนับสนุนรัฐบาลทหารของเมียนมาที่ได้ก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเมืองเมื่อเดือนที่แล้ว
นอกจากนี้ ยังมีผู้ประท้วงเสียชีวิตอีก 16 รายในพื้นที่อื่นๆ ของเมียนมาด้วย และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตอีก 1 ราย ส่งผลให้เมื่อวานนี้มีผู้เสียชีวิตรวมกันอย่างน้อย 39 ราย นับว่าเป็นวันที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดนับตั้งแต่ที่มีการก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ.
ทั้งนี้ กองทัพเมียนมาก่อเหตุรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนชาวเมียนมาจำนวนมากรวมตัวประท้วงรายวัน รวมไปถึงเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนที่ออกมาแสดงท่าทีต่อต้านคณะรัฐประหาร
รัฐบาลทหารเมียนมาเคยปกครองประเทศมานานเกือบ 50 ปี ก่อนที่จะถ่ายโอนอำนาจให้แก่ฝ่ายประชาธิปไตยซึ่งนำโดยนางออง ซาน ซูจี เมื่อราว 10 ปีก่อน และได้จัดการเลือกตั้งขึ้นในปี 2558 ซึ่งทำให้พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ของนางซูจีชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย
ต่อมา รัฐบาลของนางซูจีได้จัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ในวันที่ 8 พ.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งทำให้พรรค NLD ชนะการเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ได้ส่งผลให้กองทัพเมียนมาออกมาทำรัฐประหาร โดยอ้างว่ามีการโกงเลือกตั้ง และกองทัพจำเป็นต้องยึดอำนาจตามแนวทางของรัฐธรรมนูญ เนื่องจากคณะกรรมการการเลือกตั้งไม่ทำการตรวจสอบการโกงเลือกตั้งดังกล่าว