นายคัตสึโนบุ คาโตะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ทางรัฐบาลญี่ปุ่นกำลังติดตามการรัฐประหารของเมียนมา และจะพิจารณาว่าจะตอบสนองอย่างไรต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเมียนมา
นายคาโตะแถลงต่อสื่อมวลชนว่า "ในอนาคต ญี่ปุ่นจะพิจารณาว่าจะตอบสนองต่อสถานการณ์ในเมียนมาอย่างไรในแง่ของความร่วมมือทางเศรษฐกิจและนโยบาย ขณะติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์ พร้อมทั้งคำนึงถึงการตอบสนองจากประเทศที่เกี่ยวข้องด้วย"
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเกาหลีใต้ประกาศแผนระงับการแลกเปลี่ยนทางการทหารกับเมียนมา และสั่งห้ามการส่งออกอาวุธให้กับเมียนมาด้วย หลังจากกองทัพเมียนมาทำการรัฐประหารและปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างรุนแรง
ทั้งนี้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากการประท้วงต่อต้านกองทัพเมียนมาอย่างน้อย 39 ราย แบ่งเป็นผู้ประท้วง 38 ราย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 นาย
กองทัพเมียนมาก่อเหตุรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนชาวเมียนมาจำนวนมากรวมตัวประท้วงรายวัน รวมไปถึงเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนที่ออกมาแสดงท่าทีต่อต้านคณะรัฐประหาร
รัฐบาลทหารเมียนมาเคยปกครองประเทศมานานเกือบ 50 ปี ก่อนที่จะถ่ายโอนอำนาจให้แก่ฝ่ายประชาธิปไตยซึ่งนำโดยนางออง ซาน ซูจี เมื่อราว 10 ปีก่อน และได้จัดการเลือกตั้งขึ้นในปี 2558 ซึ่งทำให้พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ของนางซูจีชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย
ต่อมา รัฐบาลของนางซูจีได้จัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ในวันที่ 8 พ.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งทำให้พรรค NLD ชนะการเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ได้ส่งผลให้กองทัพเมียนมาออกมาทำรัฐประหาร โดยอ้างว่ามีการโกงเลือกตั้ง และกองทัพจำเป็นต้องยึดอำนาจตามแนวทางของรัฐธรรมนูญ เนื่องจากคณะกรรมการการเลือกตั้งไม่ทำการตรวจสอบการโกงเลือกตั้งดังกล่าว