เฟซบุ๊กเปิดเผยว่า กลุ่มแฮกเกอร์จีนได้สร้างบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กปลอมขึ้นมาเพื่อพยายามหลอกล่อให้ชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมอุยกูร์ในซินเจียงคลิกเข้าไปที่ลิงก์ซึ่งไม่ปลอดภัย
เฟซบุ๊กอธิบายถึงการกระทำดังกล่าวว่าเป็น "การโจมตีที่มีเป้าหมายชัดเจนมาก" โดยกลุ่มแฮกเกอร์ได้สร้างตัวตนปลอมขึ้นมาบนเฟซบุ๊กเพื่อติดต่อกับชาวมุสลิมอุยกูร์ด้วยการแสดงตัวเป็นนักข่าว, นักศึกษา และผู้สนับสนุนด้านสิทธิมนุษยชนเพื่อหลอกล่อให้เป้าหมายดังกล่าวคลิกลิงก์ซึ่งจะนำไปสู่เว็บไซต์ที่ประสงค์ร้าย และอาจแฮกข้อมูลในโทรศัพท์ของชาวอุยกูร์
เฟซบุ๊กระบุว่า มีชาวมุสลิมอุยกูร์ไม่ถึง 500 รายที่ตกเป็นเป้าหมาย อย่างไรก็ดี การโจมตีส่วนใหญ่เกิดขึ้นบนเว็บไซต์และบริการต่างๆ ซึ่งไม่ใช่บนเฟซบุ๊กโดยตรง ทางด้านผู้บริหารของเฟซบุ๊กเปิดเผยว่า ยังไม่สามารถระบุถึงผลกระทบโดยรวมที่ตามมาจากการกระทำดังกล่าว
นายนาธาเนียล ไกลเชอร์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายความปลอดภัยของเฟซบุ๊กกล่าวว่า "แฮกเกอร์พยายามโจมตีอุปกรณ์และข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายโดยใช้เฟซบุ๊กเป็นทางผ่าน ซึ่งทำให้เราเผชิญความยากลำบากในการประเมินความสำเร็จ และอาจส่งผลกระทบตามมาอย่างมากต่อกลุ่มคนดังกล่าว รวมถึงอาจมีการสอดแนมเกิดขึ้น"
เมื่อเร็วๆ นี้ สหรัฐ สหราชอาณาจักร แคนาดา และสหภาพยุโรป (EU) ได้ออกมาตรการคว่ำบาตรพลเมืองและหน่วยงานบางแห่งของจีน เนื่องจากมีพฤติกรรมละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชนกลุ่มน้อยซึ่งเป็นชาวมุสลิมอุยกูร์ในซินเจียง โดยองค์การสหประชาชาติ (UN) ระบุว่า รัฐบาลจีนได้กักขังประชาชนจำนวนมากโดยพลการและบังคับใช้แรงงาน และเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา สหรัฐได้ลงความเห็นว่า การปราบปรามของรัฐบาลจีนต่อชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมอุยกูร์ถือว่าเป็นการ "ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์"