ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ เปิดเผยว่า สหรัฐจะใช้มาตรการตอบโต้หากเกาหลีเหนือทำให้สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีตึงเครียดเพิ่มขึ้นหลังทดสอบขีปนาวุธในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ปธน.ไบเดนส่งสัญญาณว่าสหรัฐยังคงเปิดกว้างสำหรับการเจรจา
"เรากำลังปรึกษากับบรรดาชาติพันธมิตรและหุ้นส่วนของเรา และจะตอบโต้หากเกาหลีเหนือดึงดันที่จะเพิ่มความตึงเครียดขึ้นอีก" ปธน.ไบเดนกล่าวในระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ทำเนียบขาว ซึ่งนับเป็นการแถลงอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ปธน.ไบเดนเข้ารับตำแหน่ง โดยปธน.ไบเดนระบุด้วยว่า เกาหลีเหนือละเมิดมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ซึ่งห้ามใช้เทคโนโลยีขีปนาวุธ
สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) รายงานว่า เกาหลีเหนือได้ยืนยันในวันนี้ว่าได้ทดสอบยิงขีปนาวุธนำวิถีรุ่นใหม่เมื่อวานนี้ (25 มี.ค.) โดยที่นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือไม่ได้เข้าร่วมสังเกตการณ์การทดสอบยิงขีปนาวุธดังกล่าวแต่อย่างใด
เมื่อวานนี้ เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธ 2 ลูกตกลงสู่ทะเลญี่ปุ่นในช่วงเช้า ซึ่งนับเป็นการยิงขีปนาวุธดังกล่าวเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่นายโจ ไบเดน เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐ
KCNA ระบุว่า ขีปนาวุธนำวิถีรุ่นใหม่ 2 ลูกได้ถูกยิงเข้าเป้าอย่างแม่นยำในน่านน้ำห่างจากชายฝั่งทางตะวันออกของเกาหลีราว 600 กิโลเมตร
นอกจากนี้ KCNA เปิดเผยว่า "การพัฒนาระบบอาวุธนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการเสริมสร้างแสนยานุภาพทางทหารของประเทศ ตลอดจนยับยั้งภัยคุกคามทางทหารทุกรูปแบบที่มีอยู่บนคาบสมุทรเกาหลี"
หนังสือพิมพ์โรดอง ซินมุนของเกาหลีเหนือได้เผยแพร่ภาพถ่ายของขีปนาวุธลูกหนึ่งที่ยิงจากฐานยิง และคาดว่าจะเป็นขีปนาวุธรุ่นเดียวกับที่นำออกมาแสดงในพิธีสวนสนามทางทหารเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการต่างประเทศเปิดเผยว่า การยิงทดสอบขีปนาวุธ 2 ลูกของเกาหลีเหนือมีเป้าหมายเพื่อทดสอบการแก้ปัญหาของฝ่ายบริหารของปธน.ไบเดน