รัฐบาลรัสเซียได้แสดงความเห็นว่า การที่กลุ่มชาติตะวันตกพากันคว่ำบาตรกองทัพเมียนมาอาจกระตุ้นให้เกิดสงครามกลางเมือง ขณะที่สหภาพยุโรปยังคงเดินหน้าใช้การคว่ำบาตรกับเหล่าทหารระดับสูงของเมียนมาต่อไป
รัสเซียระบุว่า การคว่ำบาตรของชาติตะวันตกเป็นการกระทำที่ไร้ประโยชน์ และอันตรายอย่างยิ่ง โดยรมต.ต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า "การกระทำดังกล่าวจะนำไปสู่ความขัดแย้งข ซึ่งในท้ายที่สุดจะเป็นการผลักดันให้ประชาชนชาวเมียนมาต้องเผชิญกับสงครามกลางเมืองอย่างเต็มรูปแบบ"
สำหรับสถานการณ์ล่าสุด สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง (AAPP) เปิดเผยว่า กองทัพและตำรวจเมียนมาได้สังหารกลุ่มผู้ประท้วงที่ออกมาขัดขวางรัฐประหารแล้ว 570 ชีวิต อีกทั้งยังได้จับกุมประชาชนอีกว่า 3,500 คน
ทั้งนี้ รัสเซียเป็นประเทศหลักที่ส่งออกอาวุธให้กับเมียนมา นอกจากนี้มีรายงานว่า รมช.กลาโหมของรัสเซียได้เข้าพบกับนายพลมิน อ่อง หล่าย หัวหน้าคณะรัฐประหารและผู้บัญชาการกองทัพเมียนมาในกรุงเนปิดอว์เมื่อเดือนที่ผ่านมา
ความเคลื่อนไหวของรัสเซียถือเป็นการสนับสนุนกองทัพเมียนมาที่เข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลของนางออง ซาน ซูจีเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ของกองทัพเมียนมามีแนวโน้มยืดเยื้อ เนื่องจากประชาชนชาวเมียนมาที่สนับสนุนประชาธิปไตยยังคงปักหลักเดินหน้าประท้วงและแสดงอารยะขัดขืนทั่วประเทศ รวมถึงยังมีการประณามและคว่ำบาตรจากชาติตะวันตกเพื่อกดดันรัฐบาลทหารของเมียนมา
ส่วนทางฝั่งสหภาพยุโรปนั้น นายฌอง-อีฟว์ เลอ ดริยอง รมต.ต่างประเทศของฝรั่งเศสระบุว่า สหภาพยุโรปเตรียมออกมาตรการคว่ำบาตรต่อกองทัพเมียนมา โดยพุ่งเป้าไปที่ผลประโยชน์ทางธุรกิจ