นายแอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐให้คำมั่นพร้อมสนับสนุนออสเตรเลียตอบโต้นโยบายการบีบบังคับทางเศรษฐกิจของจีน พร้อมกับเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับออสเตรเลียผ่านทางคุณค่าที่มีร่วมกัน เช่น ประชาธิปไตย, สิทธิมนุษยชน และหลักนิติธรรม
"สหรัฐจะไม่ปล่อยให้ออสเตรเลียต้องเดียวดายในการเผชิญกับการบีบบังคับทางเศรษฐกิจของจีน" นายบลินเคนกล่าวในงานแถลงข่าวร่วมกับนางมาริส เพน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของออสเตรเลียหลังการหารือกันที่สหรัฐ
"เราจะช่วยเหลือกันและกันเพื่อให้เราเผชิญหน้ากับการข่มขู่และความท้าทายจากจุดยืนที่แข็งแกร่งร่วมกัน" นายบลินเคนกล่าวพร้อมย้ำถึงคำมั่นของคณะทำงานของประธานาธิบดีโจ ไบเดนที่จะทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อตอบโต้การขยายอิทธิพลทางทหารและเศรษฐกิจของจีนในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก
การประชุมดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างออสเตรเลียกับจีนยังคงย่ำแย่ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่เมื่อปีที่แล้วออสเตรเลียเรียกร้องให้หน่วยงานอิสระตรวจสอบแหล่งที่มาของไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีรายงานการตรวจพบครั้งแรกในเมืองอู่ฮั่นของจีนเมื่อปลายปี 2562
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า จีนเรียกเก็บภาษีนำเข้าไวน์, เนื้อวัว และผลิตภัณฑ์อื่นๆ จากออสเตรเลีย และทำให้เกิดความล่าช้าที่ด่านศุลกากร นอกจากนี้ ยังเพิ่มแรงกดดันให้กับออสเตรเลียหลังตัดสินใจยกเลิกข้อตกลงบางส่วนกับจีนเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานระหว่างประเทศในโครงการ "Belt and Road"
นางเพนกล่าวว่า ออสเตรเลียยินดีรับการสนับสนุนอย่างชัดเจนจากสหรัฐในการรับมือกับความท้าทายต่างๆ จากจีน
นางเพนยังกล่าวด้วยว่า ออสเตรเลียจะไม่ประนีประนอมในเรื่องความมั่นคงหรืออธิปไตยของประเทศ แต่ต้องการมีความสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์กับจีนที่จะสามารถหารือกันบนความแตกต่างที่ทั้งสองฝ่ายจะสามารถดำเนินการด้วยกันเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน