นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) ระบุว่า ความขัดแย้งที่รุนแรงระหว่างกองกำลังอิสราเอลและปาเลสไตน์บริเวณฉนวนกาซ่านั้น เป็น "ความน่าสะพรึงกลัวที่สุด" พร้อมกับเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิงโดยทันที หลังเกิดการปะทะกันในรอบหลายปีซึ่งดำเนินต่อเนื่องมาตลอดช่วง 7 วัน จนส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
"เหตุการณ์รุนแรงมีแต่จะทำให้มีผู้เสียชีวิต การทำลายล้าง และความสิ้นหวังไม่จบสิ้น ขณะที่ความหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะอยู่ร่วมกันได้อย่างสันตินั้นกลับยิ่งไกลออกไป" นายกูเตอร์เรสกล่าวในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC)
"เราขอเรียกร้องให้การสู้รบต้องยุติลงโดยทันที การยิงจรวด สาดกระสุนปืนเข้าใส่กัน การทิ้งระเบิดทางอากาศและยิงระเบิดปืนใหญ่เข้าใส่ฝ่ายตรงข้ามต้องหยุดได้แล้ว" นายกูเตอร์เรสกล่าว "ผมขอให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงข้อเรียกร้องนี้"
อย่างไรก็ดี นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลกล่าววานนี้ว่า อิสราเอลจะยังคงตอบโต้การโจมตีอย่างต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ การทิ้งระเบิดจากเครื่องบินของอิสราเอลได้คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซ่าไปอย่างน้อย 42 ราย โดยในจำนวนนี้มีเด็กรวมอยู่ด้วย 10 ราย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซ่าอย่างน้อย 188 รายนับตั้งแต่เปิดฉากการสู้รบเมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่อิสราเอลนั้น มีผู้เสียชีวิตจากการยิงจรวดของกลุ่มฮามาสและกองกำลังอื่นๆ ทั้งสิ้น 10 ราย
ทั้งนี้ อิสราเอลและกลุ่มฮามาสซึ่งครอบครองพื้นที่บริเวณฉนวนกาซ่า ได้ประกาศที่จะสู้รบบริเวณชายแดนต่อไป หลังจากที่อิสราเอลโจมตีอาคารอัล-จาลาในเมืองกาซ่า ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานสื่อมวลชน ขณะที่กลุ่มฮามาสได้ยิงจรวด 120 ลูกตอบโต้หลังเหตุโจมตีอาคารหลังดังกล่าวในชั่วข้ามคืน