สมาชิกสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติทั้ง 193 ชาติได้ประกาศเลื่อนการลงคะแนนเสียงในร่างมติที่เรียกร้องให้ "ระงับการจัดหา การขาย หรือการโอนอาวุธและยุทโธปกรณ์ทั้งหมด ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อมไปยังเมียนมาโดยทันที" จากเดิมที่มีกำหนดลงมติในวันนี้ (18 พ.ค.)
โฆษกของประธานสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติกล่าวก่อนหน้านี้ว่า สมาชิกทั้งหมดมีกำหนดลงคะแนนเสียงในวันนี้ แต่การลงมติได้ถูกเลื่อนออกไป และในขณะนี้ยังไม่ทราบถึงกำหนดใหม่ในการลงมติ ขณะที่ทูตบางคนกล่าวว่า การเลื่อนมติในครั้งนี้มีขึ้น เพราะต้องการเสียงสนับสนุนเพิ่มมากขึ้น
ร่างมติดังกล่าวเรียกร้องให้กองทัพเมียนมาซึ่งเข้ายึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ยุติการประกาศภาวะฉุกเฉิน, หยุดใช้ความรุนแรงต่อผู้ประท้วงที่ทำกิจกรรมด้วยความสงบ และให้ความเคารพต่อผลการเลือกตั้งเมื่อเดือนพ.ย. 2563 ซึ่งมาจากเสียงของประชาชน
อย่างไรก็ตาม มติของการประชุมสมัชชาจะไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย แต่มีน้ำหนักทางการเมือง ซึ่งแตกต่างกับมติของคณะมนตรีความมั่นคง 15 ประเทศที่ไม่มีประเทศใดสามารถใช้สิทธิวีโต้ในการประชุมได้
ทั้งนี้ สถานการณ์ในเมียนมากำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤต นับตั้งแต่กองทัพออกมาขับไล่รัฐบาลของนางออง ซาน ซูจี และควบคุมตัวเธอพร้อมเจ้าหน้าที่ของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย ซึ่ง UN ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวพวกเขา
ด้านกองทัพเมียนมาระบุว่า การเลือกตั้งเมื่อพ.ย. 2563 มีการทุจริตจนส่งผลให้นางซูจีได้ดำรงตำแหน่งผู้นำเมียนมา ขณะที่คณะกรรมการเลือกตั้งได้ออกมายืนยันถึงความโปร่งใสและยุติธรรมแล้ว
กองทัพเมียนมายังคงเดินหน้ากวาดล้างผู้ประท้วง โดยมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 788 ราย