รัฐสภายุโรปประกาศระงับการให้สัตยาบันในข้อตกลงด้านการลงทุนฉบับใหม่กับจีน จนกว่าจีนจะยกเลิกการคว่ำบาตรนักการเมืองของสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งท่าทีดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดมากขึ้นระหว่างจีนและยุโรป และทำให้บริษัทเอกชนของ EU ประสบความยากลำบากในการรุกธุรกิจในประเทศจีน
สมาชิกรัฐสภายุโรปมีมติระงับการให้สัตยาบันในข้อตกลงดังกล่าวด้วยคะแนนเสียงสนับสนุน 599 เสียง ขณะที่มีผู้คัดค้าน 30 ราย และงดออกเสียง 58 ราย
ข้อตกลงด้านการลงทุนแบบครอบคลุมระหว่าง EU และจีน (EU-China Comprehensive Agreement on Investment) ได้รับความเห็นชอบจากตัวแทนการเจรจาในเดือนธ.ค. 2563 หลังจากที่มีการเจรจากันยาวนานถึง 7 ปี โดยข้อตกลงดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะให้ความเป็นธรรมกับบริษัทเอกชนของ EU ที่เข้าไปทำธุรกิจในจีน และเสริมสร้างสถานะของจีนให้มั่นคงในฐานะหุ้นส่วนการค้าที่ได้รับความไว้วางใจ
แต่เมื่อวันที่ 10 มี.ค.ปีนี้ รัฐบาลจีนได้ประกาศคว่ำบาตรนักการเมืองของ EU จำนวน 10 คน ซึ่งรวมถึงนักวิชาการและนักการทูต เพื่อตอบโต้บรรดาชาติตะวันตกที่กล่าวหาว่า จีนได้จับกุมตัวชาวอุยกูร์ในมณฑลซินเจียงจำนวนมาก
"การคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ EU สะท้อนให้เห็นว่าจีนประเมินสถานการณ์ผิดพลาดมาก จีนควรเรียนรู้ถึงความผิดพลาดและทบทวนการกระทำของตนเองเสียใหม่ เพราะการคว่ำบาตรของจีนในครั้งนี้ ทำให้ข้อตกลงการค้าฉบับนี้ต้องถูกระงับ" นายเรนฮาร์ด บูติโคเฟอร์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติของ EU กล่าว โดยนายบูติโคเฟอร์เป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกรัฐบาลจีนคว่ำบาตรในครั้งนี้ด้วย