นายมุฮ์ยิดดิน ยัซซิน นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กำลังเผชิญกับแรงกดดันระรอกใหม่เพื่อให้รัฐสภาเปิดสมัยการประชุมอีกครั้ง หลังจากที่การประกาศภาวะฉุกเฉินในเดือนม.ค.ที่ผ่านมาไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ ท่ามกลางความไม่พอใจที่เพิ่มขึ้นในหมู่ประชาชน
อซาลินา โอธมาน รองโฆษกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกองค์การมลายูรวมแห่งชาติ กล่าวทางทวิตเตอร์ว่า ความไม่ไว้วางใจวัคซีนในหมู่ประชาชนเป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่า ผู้คนขาดความเชื่อมั่นในรัฐบาล ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องจัดการอภิปรายสาธารณะขึ้น
"เมื่อพลเมืองไม่เชื่อมั่นและรู้สึกโกรธแค้น จงอย่าหวังว่าพวกเขาจะซาบซึ้งใจ" โอธมาน กล่าว "ด้วยเหตุที่โควิด-19 จะอยู่ในมาเลเซียต่อไปอีกหลายปี เราคงไม่สามารถอยู่ภายใต้การประกาศภาวะฉุกเฉินตลอดไปได้ เราเป็นประเทศเดียวในโลกที่ไม่สามารถเปิดรัฐสภาในช่วงวิกฤตได้เช่นนั้นจริงหรือไม่"
ยอดผู้ป่วยโควิด-19 รายวันเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่านับตั้งแต่มาเลเซียประกาศภาวะฉุกเฉินในเดือนม.ค. ซึ่งมาตรการดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด แต่ถึงกระนั้น ยอดผู้ติดเชื้อโควิดและผู้เสียชีวิตสูงกลับพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์เมื่อวานนี้ ขณะที่การยอดการฉีดวัคซีนก็ยังไม่กระเตื้องขึ้น
การวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับแนวทางของรัฐบาลในจัดการกับโรคระบาดทวีความรุนแรงขึ้น รวมถึงข้อกล่าวหาเรื่องการบังคับใช้กฎหมายอย่าง 2 มาตรฐาน ส่งผลให้ประชาชนเกิดความโกรธแค้นและระบายออกมาในโซเชียลมีเดียตลอดช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา และผลักดันให้แฮชแท็ก #Kerajaangagal หรือรัฐบาลที่ล้มเหลว ขึ้นหัวข้อที่กำลังมาแรงของทวิตเตอร์มาเลเซีย