นางแคร์รี ลัม ผู้บริหารสูงสุดประจำเขตบริหารพิเศษฮ่องกงได้ออกมาปกป้องการเข้าจับกุมบรรณาธิการระดับอาวุโสของหนังสือพิมพ์แอปเปิล เดลี พร้อมระบุว่ากฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่จีนบังคับใช้นั้นเป็นการป้องปรามสื่ออื่นๆ ด้วย
นางลัมแถลงวันนี้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจน่าจะรวบรวมหลักฐานได้เพียงพอก่อนเข้าจับกุมผู้บริหารและบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์แอปเปิล เดลี โดยได้ปกป้องการดำเนินงานของตำรวจในฮ่องกงหลังถูกโจมตีว่าลิดรอนเสรีภาพสื่อ และระบุด้วยว่า การจู่โจมในครั้งนี้ไม่ได้เชื่อมโยงกับ "การดำเนินงานตามปกติของสื่อมวลชน"
นางลัมให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า "ที่คุณบอกว่าการกระทำของเราลิดรอนเสรีภาพสื่อเพียงเพราะหน่วยงานที่ต้องสงสัยนั้นเป็นหนังสือพิมพ์ และบุคคลที่ต้องสงสัยนั้นเป็นผู้บริหารของหนังสือพิมพ์ อย่างนี้ไม่ถูกต้อง"
"กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกงต้องมีการบังคับใช้อย่างเข้มงวด รวมถึงใช้เพื่อป้องกันและป้องปรามด้วย เพื่อให้กฎหมายนี้บรรลุวัตถุประสงค์ จึงต้องมีผลในการป้องปรามด้วย"
นอกจากนี้ นางลัมและนายจอห์น ลี เลขาธิการด้านความมั่นคงของฮ่องกงยังแสดงความเห็นไปในทางเดียวกันว่า การเข้าจับกุมดังกล่าวพุ่งเป้าไปที่การละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ไม่ได้เป็นการพุ่งเป้าไปที่บริษัทด้านสื่อซึ่งรายงานข่าวตามปกติแต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี เมื่อผู้สื่อข่าวถามนางลัมว่า การรายงานข่าวตามปกตินั้นหมายความว่าอย่างไร นางลัมอธิบายเพียงว่าเป็นการรายงานข่าวที่ไม่ขัดต่อกฎหมายใดๆ
"การทำงานตามปกติของสื่อมวลชนคืออะไรน่ะหรือ ดิฉันคิดว่า คุณซึ่งทำงานด้านนี้น่าจะตอบได้ดีกว่า" นางลัมกล่าว "ดิฉันบอกได้แต่เพียงสิ่งที่ขัดต่อกฎหมายตามที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายและกระทรวงยุติธรรมระบุไว้เท่านั้น แต่นักข่าวก็ควรตัดสินได้ว่าการกระทำใดที่ขัดต่อกฎหมาย"
การบุกเข้าจับกุมบรรณาธิการและผู้บริหารของหนังสือพิมพ์แอปเปิล เดลี ส่งผลให้สหรัฐและกลุ่มสิทธิมนุษยชนวิพากษ์วิจารณ์การกระทำดังกล่าวว่า เป็นการบั่นทอนเสรีภาพของสื่อในฮ่องกง
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกเข้าจับกุมผู้บริหาร 5รายของหนังสือพิมพ์แอปเปิล เดลีในข้อหาละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ โดยเมื่อวานนี้ คณะกรรมการบริษัทเน็กซ์ ดิจิทัล (Next Digital) ซึ่งเป็นผู้ตีพิมพ์หนังสือพิมพ์แอปเปิล เดลี (Apple Daily) ได้หารือร่วมกันและระบุว่า อาจต้องยุติการดำเนินงานในสัปดาห์นี้ เนื่องจากทางการได้ใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติสั่งอายัดทรัพย์สิน และระงับการเข้าถึงบัญชีธนาคารของบริษัท ส่งผลให้ไม่สามารถจ่ายเงินให้กับพนักงานหรือทำธุรกิจกับซัพพลายเออร์ต่างๆ ได้