นายมูห์ยิดดิน ยัสซิน นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ประกาศมาตรการเยียวยาภาคธุรกิจและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 วงเงิน 1.5 แสนล้านริงกิต (3.62 หมื่นล้านดอลลาร์) หรือราว 1.14 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ ในการแถลงต่อชาวมาเลเซียโดยมีการถ่ายทอดสดทั่วประเทศ นายยัสซินกล่าวว่า มาตรการช่วยเหลือดังกล่าว จะรวมถึงการที่รัฐบาลแจกเงินสดจำนวน 1 หมื่นล้านริงกิตแก่ประชาชนที่มีรายได้ปานกลางและรายได้ต่ำภายในสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ นายยัสซินประกาศมาตรการพักหนี้เป็นเวลา 6 เดือนให้แก่ประชาชนทุกคนโดยไม่มีการกำหนดเกณฑ์รายได้
ขณะเดียวกัน รัฐบาลประกาศตั้งกองทุนหลายแห่งเพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจ และให้มีการลดหย่อนภาษีสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) รวมทั้งอุตสาหกรรมโรงแรม
มาตรการดังกล่าวถือเป็นมาตรการเยียวยาครั้งที่ 4 ในปีนี้ของนายยัสซินต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19
การประกาศมาตรการเยียวยาในครั้งนี้มีขึ้น หลังจากที่รัฐบาลมาเลเซียประกาศขยายเวลาล็อกดาวน์ทั่วประเทศโดยไม่มีกำหนด จากเดิมที่จะสิ้นสุดลงในวันนี้ หลังยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังคงไม่มีแนวโน้มว่าจะชะลอตัวลง
รัฐบาลมาเลเซียระบุว่า มาตรการล็อกดาวน์จะได้รับการผ่อนคลายก็ต่อเมื่อยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันเฉลี่ยในรอบสัปดาห์ ลดลงต่ำกว่า 4,000 รายต่อวัน
ส่วนมาตรการล็อกดาวน์ในขณะนี้ รัฐบาลมาเลเซียจะอนุญาตให้เฉพาะภาคการผลิตและบริการที่จำเป็นเปิดดำเนินการได้เท่านั้น ขณะที่ศูนย์การค้า โรงเรียน และสวนสาธารณะยังคงปิดให้บริการ
นอกจากนี้ รัฐบาลมาเลเซียยังควบคุมการเดินทางของประชาชน โดยจำกัดให้ประชาชนสามารถเดินทางออกนอกบ้านได้ครอบครัวละ 2 คนเท่านั้น และห้ามการเดินทางระหว่างรัฐและเมืองต่างๆ ในประเทศ
ทั้งนี้ มาเลเซียประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นครั้งที่ 2 หลังจากประกาศล็อกดาวน์รอบแรกเมื่อเดือนมี.ค.-พ.ค.ปีที่แล้ว