นายโทชิมิตสึ โมเตกิ รัฐมนตรีต่างประเทศของญี่ปุ่นแถลงในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นเตรียมเพิ่มงบประมาณช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เมียนมาในกรณีฉุกเฉินอีก 5.8 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากชาวเมียนมาขาดแคลนอาหารและของใช้ในชีวิตประจำวันหลังจากกองทัพก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา
ความช่วยเหลือที่จะส่งมอบผ่านหน่วยงานของสหประชาชาติ เช่น โครงการอาหารโลก (WFP) และกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ จะครอบคลุมเสบียงสำหรับประชาชน 136,000 คนที่ได้รับผลกระทบทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมียนมาใกล้ชายแดนไทย ซึ่งสภาพความเป็นอยู่ย่ำแย่ลงอย่างมากนับตั้งแต่กองทัพเข้าควบคุมอำนาจการบริหารประเทศ
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของญี่ปุ่นเป็นการเพิ่มความช่วยเหลือให้กับเมียนมา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ญี่ปุ่นได้มอบความช่วยเหลือด้านอาหารครั้งแรกรวมมูลค่า 4 ล้านดอลลาร์ผ่าน WFP เพื่อส่งอาหารให้กับประชาชนราว 600,000 คนในย่างกุ้ง
จนถึงขณะนี้ ญี่ปุ่นได้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เมียนมาไปแล้วราว 20 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่กองทัพเมียนมาโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย และผู้นำพลเรือนอย่างนางอองซาน ซูจี
"รัฐบาลญี่ปุ่นจะยืนหยัดเคียงข้างประชาชนเมียนมาในการให้ความช่วยเหลือต่อไป" นายโมเตกิกล่าวในการแถลงข่าว
ญี่ปุ่นประณามการปราบปรามผู้ประท้วงอย่างสันติของกองทัพเมียนมาและเรียกร้องให้ยุติความรุนแรง พร้อมเรียกร้องให้ปล่อยตัวนางซูจีและผู้ต้องขังคนอื่นๆ และกลับสู่กระบวนการประชาธิปไตยโดยเร็ว
นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้ระงับความช่วยเหลือด้านการพัฒนาต่างๆ แก่เมียนมาเพื่อตอบโต้การก่อรัฐประหาร แต่ยังคงสงวนท่าทีในการเข้าร่วมกับสหรัฐและประเทศประชาธิปไตยอื่นๆ เพื่อบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อบุคคลและกลุ่มที่เกี่ยวข้อง