นายโทชิมิตสึ โมเตกิ รัฐมนตรีต่างประเทศของญี่ปุ่นเปิดเผยวันนี้ถึงแผนการเยือนอียิปต์, อิหร่าน, อิสราเอล, จอร์แดน, ปาเลสไตน์, ตุรกี และกาตาร์ ในวันอาทิตย์ที่ 15 ส.ค.นี้ เพื่อหารือถึงความมั่นคงในภูมิภาคและการรับมือการระบาดของโควิด-19
ทั้งนี้ นายโมเตกิมีกำหนดเยือนภูมิภาคตะวันออกกลางไปจนถึงวันที่ 24 ส.ค. หลังมีการจัดตั้งคณะรัฐบาลใหม่ในอิหร่านและอิสราเอล ซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจที่สำคัญในภูมิภาค นอกจากนี้ นายโมเตกิยังมีเป้าหมายกระชับความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและประเทศแถบตะวันออกกลางซึ่งมีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์สำหรับญี่ปุ่น ในฐานะผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่
นายโมเตกิแถลงว่า "ในการเดินทางเยือนครั้งนี้ ผมต้องการเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นที่เรามีต่อภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งส่งเสริมให้เกิดสันติภาพและความรุ่งโรจน์ตลอดหลายปีที่ผ่านมา"
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายอิบราฮิม ไรซี ได้เข้ารับตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของอิหร่านอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งให้คำมั่นเดินหน้าตามข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน และเรียกร้องให้นานาชาติยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร ขณะที่อิสราเอลมีการเปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปีเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากที่นายนาฟตาลี เบนเน็ตต์ นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ต่อจากนายเบนจามิน เนทันยาฮู
นายโมเตกิยังระบุถึงรัฐบาลชุดใหม่ของอิสราเอลและอิหร่านด้วยว่า เขาต้องการพูดคุยอย่างเปิดเผยถึงสถานการณ์ในภูมิภาค และทำงานร่วมกับผู้นำทั้งสองประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อส่งเสริมเสถียรภาพในภูมิภาค
กระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นเผยว่า ก่อนหน้านี้ นายโมเตกิได้พิจารณาแผนการเยือนอิรักด้วย แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ในอิรักทำให้นายโมเตกิตัดสินใจเปลี่ยนแผนการในท้ายที่สุด