สหประชาชาติ (UN) แสดงความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับการที่พื้นที่การสู้รบในอัฟกานิสถานเปลี่ยนไปสู่พื้นที่ในเขตเมือง พร้อมเตือนว่าหากกลุ่มตาลีบันสามารถรุกคืบจนถึงกรุงคาบูลได้ ก็จะเป็นหายนะกับพลเรือนของอัฟกานิสถาน
กลุ่มตาลีบันเข้าควบคุมเมืองเฮรัตที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของอัฟกานิสถานเมื่อวานนี้ และใกล้ที่จะยึดเมืองกันดาฮาร์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดอันดับ 2 และเป็นเหมือนบ้านทางจิตวิญญาณของกลุ่มตาลีบันได้แล้ว และปัจจุบันยึดพื้นที่ประมาณ 2 ใน 3 ของอัฟกานิสถานแล้ว
นายสเตฟาน ดูจาริก โฆษกของ UN กล่าวว่า "เป็นที่ชัดเจนว่าการสู้รบในเมืองใหญ่ขนาดกรุงคาบูลจะเป็นหายนะสำหรับพลเรือน และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสิ่งนั้นจะไม่เกิดขึ้น"
นอกจากนี้ นายดูจาริกยังกล่าวด้วยว่า การสืบสวนใดๆ ต่อการเสียชีวิตของพลเมืองจะต้องเป็นกลางและเป็นอิสระจากกลุ่มที่เกี่ยวข้อง โดย UN ระบุว่ามีพลเรือนกว่า 1,000 คนถูกสังหารในเดือนที่ผ่านมา
ด้านกลุ่มตาลีบันได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยปฏิเสธเรื่องการสังหารพลเรือน พร้อมเสนอตัวที่จะนำทีมตรวจสอบของ UN เข้าทำการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้ การเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลอัฟกานิสถานและกลุ่มตาลีบันเริ่มขึ้นเมื่อปีที่แล้วในกรุงโดฮา เมืองหลวงของกาตาร์ แต่ยังไม่มีความคืบหน้าที่ชัดเจน
นายดูจาริกกล่าวว่า "เรายังคงเชื่อว่าจะมีทางออกทางการเมือง แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเราจะเมินเฉยต่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้"