เจ้าหน้าที่ขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต้ (NATO) กล่าวในวันนี้ว่า มีผู้อพยพออกจากกรุงคาบูลแล้วกว่า 18,000 คน นับตั้งแต่กลุ่มตาลีบันเข้ายึดเมืองหลวงของอัฟกานิสถาน โดยให้คำมั่นที่จะเพิ่มความพยายามในการอพยพเป็น 2 เท่า หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับการจัดการกับวิกฤตการณ์ครั้งนี้
เจ้าหน้าที่ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ผู้คนหลายพันคนที่ต้องการหลบหนีออกนอกประเทศยังคงเดินทางมารอความหวังที่สนามบินต่อไป โดยกลุ่มตาลีบันได้รุกคืบเข้าควบคุมอัฟกานิสถานอย่างรวดเร็ว หลังจากที่กองกำลังสหรัฐและชาติอื่นๆ ถอนกำลังออกจากประเทศ
กลุ่มตาลีบันได้เรียกร้องให้ประชาชนในประเทศมีความสมานสามัคคีก่อนการละหมาดวันศุกร์ ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่กลุ่มติดอาวุธยึดอำนาจ พร้อมเรียกร้องให้อิหม่ามเกลี้ยกล่อมผู้คนไม่ให้ออกจากอัฟกานิสถาน ท่ามกลางเหตุการณ์วุ่นวายที่สนามบิน การประท้วง และความรุนแรงที่เกิดขึ้น
ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งบอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า มีผู้เสียชีวิตหลายคนในเมืองอาซาดาบัดทางตะวันออกประเทศเมื่อวานนี้ หลังกลุ่มตาลีบันยิงเข้าใส่ฝูงชนที่แสดงความจงรักภักดีต่อรัฐบาลซึ่งถูกปราบปราม ในขณะที่กลุ่มตาลีบันตั้งเป้าหมายที่จะจัดตั้งรัฐใหม่ซึ่งอยู่ภายใต้กฎหมายอิสลามที่เข้มงวด
มีการต่อต้านที่คล้ายกันในอีก 2 เมือง ได้แก่ เมืองจาลาลาบัดและเมืองโคส์ชทางตะวันออก ซึ่งชาวอัฟกันใช้การเฉลิมฉลองอิสรภาพของประเทศในปี 2462 ที่พ้นจากการเป็นอาณานิคมของอังกฤษ เพื่อระบายความโกรธแค้นจากการยึดครองของตาลีบัน
ผู้เห็นเหตุการณ์อีกรายเปิดเผยว่า มีการยิงปืนเกิดขึ้นใกล้กับการชุมนุมในกรุงคาบูล แต่ดูเหมือนว่ากลุ่มตาลีบันยิงปืนขึ้นฟ้า ไม่ใช่การยิงใส่ฝูงชน