เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาวเปิดเผยว่า แผนการเดินทางเยือนสิงคโปร์และเวียดนามของนางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 22 ส.ค.นี้เป็นการส่งสัญญาณว่า สหรัฐจะยังคงมีบทบาทในภูมิภาคนี้ ขณะที่รัฐบาลสหรัฐเองก็แสวงหาการสนับสนุนจากนานาชาติเพื่อต่อกรกับอิทธิพลของจีนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในเวทีโลก
เจ้าหน้าที่ระบุว่า ประเด็นการเจรจาในการเยือนครั้งนี้คาดว่าจะเป็นการเน้นย้ำในหลักปฏิบัติสากลในทะเลจีนใต้, การตอกย้ำความเป็นผู้นำของสหรัฐในภูมิภาค และการขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงในภูมิภาค
ทั้งนี้ นางแฮร์ริสจะเป็นเจ้าหน้าที่สหรัฐที่มีตำแหน่งสูงสุดซึ่งเดินทางมายังภูมิภาคนี้ หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมความเป็นพันธมิตรซึ่งสหรัฐมองว่าเป็นสิ่งสำคัญในการคอยตรวจสอบการแผ่ขยายอิทธิพลของจีน
นางแฮร์ริสมีกำหนดเดินทางถึงสิงคโปร์ในวันอาทิตย์นี้ (22 ส.ค.) ก่อนจะเดินทางต่อไปยังเวียดนามในวันอังคาร (24 ส.ค.) และเดินทางกลับในวันพฤหัสบดี โดยนางแฮร์ริสจะเป็นรองปธน.สหรัฐคนแรกที่เยือนเวียดนาม
นางแฮร์ริสจะเข้าพบกับนางฮาลิมาห์ ยาคอบ ประธานาธิบดีของสิงคโปร์ และนายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรี พร้อมกล่าวสุนทรพจน์เนื่องในโอกาสที่เรือรบสหรัฐเดินทางมายังสิงคโปร์ นอกจากนี้ ยังมีการประชุมเพื่อหารือถึงประเด็นด้านซัพพลายเชนร่วมกับตัวแทนจากภาครัฐและภาคเอกชน
สำหรับการเดินทางเยือนกรุงฮานอย นางแฮร์ริสจะเข้าพบผู้นำของเวียดนาม ได้แก่ นายเหงียน ซวน ฟุก ประธานาธิบดี และนายฝั่ม มิญ จิ๊ญ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม พร้อมทั้งเป็นผู้แทนของสหรัฐในการเปิดสำนักงานศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ประจำภูมิภาค
การเดินทางเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กำลังจะมีขึ้นนี้นับเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งที่สองในฐานะรองประธานาธิบดีของนางแฮร์ริส โดยเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา นางแฮร์ริสได้เดินทางไปเยือนกัวเตมาเลและเม็กซิโกเพื่อหารือถึงสาเหตุของวิกฤตผู้อพยพตามแนวชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก