นายวิเวียน บาลากริชนัน รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์เปิดเผยว่า ความพยายามของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน (ASEAN) ในเมียนมานั้นยังไม่คืบหน้ามากเท่าที่ควร
"ชาติอาเซียนยังดำเนินการได้ไม่เต็มที่หรือไม่รวดเร็วอย่างที่คาดหวังไว้ ทั้งนี้เพราะสถานการณ์ในเมียนมาเต็มไปด้วยอุปสรรค" นายบาลากริชนันให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์
เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา อาเซียนได้ประกาศฉันทามติ 5 ข้อที่มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขวิกฤตในเมียนมา โดยหนึ่งในนั้นคือ การแต่งตั้งนายเอรีวัน ยูซอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของบรูไนให้ดำรงตำแหน่งทูตพิเศษประจำเมียนมาเมื่อต้นเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่องค์การสหประชาชาติ (UN) และหลายประเทศย้ำเตือนให้ชาติอาเซียนฟื้นฟูประชาธิปไตยในเมียนมาโดยใช้แนวทางการทูต
นายบาลากริชนันแสดงความหวังว่า จะได้รับรายงานความคืบหน้าในการเดินทางเยือนเมียนมาของทูตพิเศษก่อนที่การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนจะเปิดฉากขึ้นในเดือนพ.ย.นี้ และแนะนำให้กองทัพเมียนเปิดทางให้ทูตพิเศษเข้าพบผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในการเดินทางเยือนครั้งนี้
ทั้งนี้ เมียนมาเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่ล่มสลาย ขณะที่วิกฤตด้านมนุษยธรรมก็เลวร้ายลงในช่วงเดือนที่ผ่านมา หลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูงขึ้นจนระบบสาธารณสุขแบกรับไม่ไหว
ด้านสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง (AAPP) เปิดเผยว่า ชาวเมียนมากว่า 1,000 รายเสียชีวิตจากการถูกกองกำลังความมั่นคงสังหาร นับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา
นายบาลากริชนันระบุว่าสถานการณ์เข้าขั้นเลวร้าย ขณะที่อาเซียนพยายามที่จะกอบกู้สถานการณ์ เปิดทางสู่การเจรจา และให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
นอกจากนี้ นายบาลากริชนันยังชี้แจงถึงประเด็นคำถามที่ว่า อาเซียนหรือสิงคโปร์จะให้ความร่วมมือกับรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติหรือไม่ โดยนายบาลากริชนันระบุว่า "เราพยายามดำเนินตามแนวทางการสื่อสาร โดยจะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความยุ่งยาก และเราก็จะไม่เลือกข้าง"