นางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐเปิดเผยในระหว่างพบปะกับนายฝั่ม มิญ จิ๊ญ นายกรัฐมนตรีเวียดนามในวันนี้ว่า รัฐบาลสหรัฐจะบริจาควัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์-ไบออนเทคให้กับเวียดนามอีกจำนวน 1 ล้านโดส
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการยืนยันการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวก่อนหน้านี้ว่า นางแฮร์ริสจะเสนอความช่วยเหลือในการจัดหาวัคซีนให้กับเวียดนามในระหว่างการเดินทางเยือนประเทศเวียดนาม โดยมีเป้าหมายที่จะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในช่วงเวลาที่จีนขยายอิทธิพลในทะเลจีนใต้
นางแฮร์ริสมีกำหนดพบปะหารือเกี่ยวกับความมั่นคงด้านสุขภาพร่วมกับบรรดาเจ้าหน้าที่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในวันนี้ก่อนที่จะเปิดสำนักงานศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่สถานทูตสหรัฐในกรุงฮานอยเปิดเผยเมื่อเดือนที่แล้วว่า สหรัฐได้บริจาควัคซีนให้เวียดนามแล้ว 5 ล้านโดส
ข้อมูลจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า เวียดนามมีประชาชนเพียง 1.9% เท่านั้นจาก 98 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบโดส ซึ่งถือเป็นอัตราต่ำสุดในบรรดาประเทศเอเชีย ส่วนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เวียดนามประกาศว่ารัฐบาลจีนจะบริจาควัคซีนให้กับเวียดนามอีก 2 ล้านโดส
ทั้งนี้ วัคซีนถือเป็นกลยุทธ์ที่สหรัฐใช้เป็นช่องทางการทูตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่คณะบริหารของปธน.โจ ไบเดน มีเป้าหมายที่สร้างความสัมพันธ์กับประเทศที่อยู่ใกล้ชิดกับจีน โดยส่งนายลอยด์ ออสติน รมว.กลาโหมสหรัฐ และรองปธน.แฮร์ริสเดินทางเยือนภูมิภาคเอเชีย
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยว่า นางแฮร์ริสได้เดินทางออกจากสิงคโปร์ล่าช้ากว่า 3 ชั่วโมงเมื่อวานนี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านสาธารณสุขที่ไม่ปกติในกรุงฮานอย หลังจากพบว่ามีผู้ล้มป่วยด้วยอาการ "ฮาวานา ซินโดรม" ซึ่งทำให้ผู้ป่วยมีอาการไมเกรน วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ และสูญเสียความทรงจำ โดยกลุ่มอาการดังกล่าวได้ชื่อเช่นนี้ เนื่องจากมีการตรวจพบครั้งแรกในหมู่เจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐประจำกรุงฮาวานาของคิวบาเมื่อปี 2559