ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุลอบวางระเบิดสนามบินคาบูลในอัฟกานิสถานเพิ่มขึ้นเป็น 103 รายแล้วในขณะนี้ โดยสหรัฐเชื่อว่าเป็นฝีมือของสมาชิกกลุ่มรัฐอิสลาม (ISIS)
ในจำนวนผู้เสียชีวิต 103 รายที่มีการรายงานล่าสุดนี้ เป็นทหารสหรัฐ 13 ราย ซึ่งถือเป็นการสูญเสียทหารสหรัฐวันเดียวจำนวนมากที่สุดในอัฟกานิสถานในรอบ 10 ปี นอกจากนี้ ยังมีทหารสหรัฐได้รับบาดเจ็บอีก 18 รายจากเหตุลอบวางระเบิดซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างการอพยพพลเมืองออกจากสนามบินกรุงคาบูล
ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ให้คำมั่นว่าจะตามไล่ล่าผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ให้ได้ พร้อมกับออกคำสั่งให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐเร่งวางแผนเพื่อเตรียมโต้ตอบผู้ก่อการร้ายเหล่านี้
"เราจะไม่ให้อภัยผู้ที่ก่อเหตุ และเราจะไม่ลืมสิ่งที่พวกเขาทำ เราจะตามไล่ล่าและจะเอาคืนพวกเขาอย่างสาสม" ปธน.ไบเดนกล่าว
ปธน.ไบเดนยังระบุด้วยว่า สหรัฐจะยังคงปฏิบัติภารกิจอพยพประชาชนต่อไป และไม่ได้ส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงเป้าหมายการถอนทหารซึ่งกำหนดไว้ว่าจะสิ้นสุดในวันอังคารหน้า
"ผมได้สั่งการให้ผู้บัญชาการทหารเร่งวางแผนปฏิบัติการเพื่อโจมตีทรัพย์สิน, เด็ดหัวผู้นำ และทำลายฐานที่มั่นของกลุ่ม ISIS-K เราจะตอบโต้ด้วยกำลังและความแม่นยำของเราในที่ที่เราเลือก และในช่วงเวลาที่เราเห็นว่าเหมาะสม" ปธน.ไบเดนกล่าว
ทั้งนี้ เกิดเหตุระเบิดขึ้น 2 ครั้งด้านนอกท่าอากาศยานฮามิด คาร์ไซในกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถานเมื่อคืนนี้ โดยเกิดขึ้นที่ Abbey Gate และ Baron Hotel ซึ่งอยู่ไม่ห่างจาก Abbey Gate ขณะที่สหรัฐเชื่อว่า มือระเบิดฆ่าตัวตายซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่ม ISIS ได้ก่อเหตุระเบิดในครั้งนี้