สหรัฐและชาติพันธมิตรประกาศเตือนว่า ผู้ก่อการร้ายอาจก่อเหตุโจมตีในกรุงคาบูลมากขึ้น ขณะเส้นตายการถอนกองกำลังต่างชาติในวันที่ 31 ส.ค. ใกล้เข้ามาทุกขณะ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังเกิดเหตุระเบิด 2 ครั้งด้านนอกท่าอากาศยานฮามิด คาร์ไซในกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถานเมื่อวานนี้ ขณะที่ผู้คนนับพันยังคงหวังว่าจะได้อพยพออกนอกประเทศ หลังจากที่กลุ่มตาลีบันเข้ายึดครองอัฟกานิสถาน
กองบัญชาการกลางของสหรัฐยืนยันเมื่อค่ำวานนี้ว่า มีทหารสหรัฐ 13 นายเสียชีวิต และบาดเจ็บอีก 18 นาย ขณะนายเบน วอลเลซ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของสหราชอาณาจักร กล่าวในวันนี้ว่า ชาวอัฟกันราว 60-80 คนถูกสังหารในเหตุระเบิดดังกล่าว โดยกลุ่ม ISIS-K ได้อ้างว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ในครั้งนี้
นายวอลเลซกล่าวว่า "เห็นได้ชัดว่าภัยคุกคามกำลังจะเพิ่มมากขึ้น เมื่อเข้าใกล้กำหนดเส้นตายที่เราจะเดินทางออกจากประเทศ" เขากล่าวกับสำนักข่าวสกายนิวส์ "กลุ่มก่อการร้ายเช่น ISIS ต้องการที่จะอ้างสิทธิ์ว่าพวกเขาได้ขับไล่สหรัฐหรือสหราชอาณาจักรออกไป"
นอกจากนี้ นายวอลเลซยังกล่าวโจมตีการบริหารของปธน.โจ ไบเดนด้วยว่า "ชาติตะวันตกมักคิดว่าการกระทำเช่นนี้จะช่วยแก้ปัญหา แต่มันไม่จริงเลย"
ด้านพลเอกเคนเน็ธ แมคเคนซี จูเนียร์ นายพลนาวิกโยธินสหรัฐ กล่าวในการบรรยายสรุปของกระทรวงกลาโหมวานนี้ว่า กลุ่มรัฐอิสลาม (ISIS) มีแนวโน้มที่จะทำการโจมตีต่อไป ก่อนที่การอพยพจะสิ้นสุดลง