รัฐบาลโปแลนด์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในสองพื้นที่ซึ่งมีอาณาเขตติดกับเบลารุสเมื่อวานนี้ หลังจากมีผู้อพยพโดยผิดกฎหมายเข้าไปยังโปแลนด์เพิ่มขึ้น
การประกาศภาวะฉุกเฉินดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในโปแลนด์หลังยุคคอมมิวนิสต์ โดยรัฐบาลโปแลนด์ได้สั่งห้ามการรวมกลุ่มจำนวนมาก รวมถึงจำกัดการเดินทางเข้ามาในระยะ 3 กิโลเมตร (2 ไมล์) ตามแนวพรมแดนเป็นเวลา 30 วัน
โปแลนด์ได้เริ่มกั้นแนวรั้วลวดหนามเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อสกัดผู้อพยพจากประเทศต่างๆ เช่น อิรักและอัฟกานิสถาน
ด้านกลุ่มผู้ให้ความช่วยเหลือผู้อพยพระบุว่า มีตำรวจโปแลนด์ตรึงกำลังเพิ่มขึ้นและมีรถหุ้มเกราะประจำการตามแนวชายแดนเมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทางกลุ่มยังแสดงความกังวลว่า คำสั่งของรัฐบาลจะกระทบกับการปฏิบัติงานและส่งผลให้ผู้อพยพติดค้างตามแนวชายแดน
"บรรยากาศส่อเค้าถึงความรุนแรง มีเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบ ถืออาวุธอยู่ทุกที่ ซึ่งทำให้เรานึกถึงสงคราม" ผู้อาศัยในเมืองกรึงกีซึ่งเป็นเขตติดต่อกับเบลารุสให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์
ทั้งนี้ โปแลนด์และสหภาพยุโรป (EU) ได้ตำหนิประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโคของเบลารุสที่สนับสนุนให้ผู้อพยพหลายร้อยคนเดินทางข้ามมายังพรมแดนของโปแลนด์ เพื่อกดดันหลังถูกกลุ่ม EU คว่ำบาตรห้ามไม่ให้สายการบินของเบลารุสบินเข้าน่านฟ้าหรือลงจอดในสนามบินของอียู เพื่อตอบโต้เหตุการณ์ที่เบลารุสบังคับเครื่องบินของสายการบินไรอันแอร์ให้ลงจอดเพื่อรวบตัวผู้สื่อข่าวรายหนึ่งที่โดยสารมาในเครื่องเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา