เจ้าชายเตอร์กี อัล-ไฟซาล (Prince Turki al-Faisal) แห่งซาอุดีอาระเบีย ต้องการให้รัฐบาลสหรัฐแสดงความมุ่งมั่นที่จะให้ความช่วยเหลือซาอุดีอาระเบียต่อไป ด้วยการไม่ถอนระบบขีปนาวุธสำหรับป้องกันประเทศออกจากซาอุฯ
ทั้งนี้ เจ้าชายอัล-ไฟซาลได้แสดงความเห็นในประเด็นที่ว่า ตะวันออกกลางต้องการความช่วยเหลือด้านใดจากสหรัฐหลังกลุ่มตาลีบันบุกยึดกรุงคาบูล ในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีเมื่อเดือนส.ค.
"ผมคิดว่าเราต้องการการรับรองถึงคำมั่นที่สหรัฐเคยให้ไว้ เป็นต้นว่าการไม่ปลดขีปนาวุธแพทริออท (Patriot missile) ออกจากประเทศในช่วงที่ซาอุฯ ยังคงตกเป็นเป้าหมายการโจมตีจากขีปนาวุธและโดรน" เจ้าชายอัล-ไฟซาล อดีตหัวหน้าหน่วยข่าวกรองของซาอุฯ กล่าว
เจ้าชายอัล-ไฟซาลกล่าวด้วยว่า "การถอนขีปนาวุธแพทริออทออกไปจากซาอุฯ นั้นไม่ได้บ่งบอกถึงความมุ่งมั่นของสหรัฐที่เคยประกาศไว้ว่าจะช่วยซาอุฯ ในการป้องกันตัวเองจากศัตรูภายนอก และหวังว่าสหรัฐจะให้การรับรองตามที่เคยให้คำมั่นว่าจะทำทุกวิถีทางที่จำเป็นในการช่วยเหลือ"
การแสดงความเห็นดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา สื่อหลายฉบับรายงานว่ากระทรวงกลาโหมของสหรัฐตัดสินใจถอนอาวุธยุทโธปกรณ์ป้องกันภัยทางอากาศออกจากตะวันออกกลาง รวมถึงแบตเตอรี่สำหรับขีปนาวุธแพทริออทด้วย
ทั้งนี้ สหรัฐได้เพิ่มกำลังทหารที่ประจำการในซาอุดีอาระเบียเมื่อปี 2562 โดยติดตั้งแบตเตอรี่สำหรับขีปนาวุธแพทริออทจำนวน 2 ชุด หลังเหตุโจมตีโรงงานผลิตน้ำมันของซาอุฯ ขณะที่รัฐบาลสหรัฐได้ตำหนิอิหร่านเกี่ยวกับเหตุโจมตีดังกล่าว แม้อิหร่านจะปฏิเสธก็ตาม