นายสก็อตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียเปิดเผยว่า เขาจะไม่หารือกับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ที่องค์การสหประชาชาติ(UN) ในสัปดาห์นี้ แม้ว่าการยกเลิกสัญญามูลค่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์กับฝรั่งเศสอาจส่งผลกระทบต่อข้อตกลงการค้าระหว่างออสเตรเลียและสหภาพยุโรป (EU) ก็ตาม
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ออสเตรเลียได้ยกเลิกข้อตกลงกับ Naval Group บริษัทต่อเรือสัญชาติฝรั่งเศส ในการสร้างกองเรือดำน้ำแบบธรรมดา และจะสร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์อย่างน้อย 8 ลำด้วยเทคโนโลยีของสหรัฐและอังกฤษ หลังบรรลุข้อตกลงความร่วมมือด้านความมั่นคงฉบับใหม่ระหว่างออสเตรเลีย สหรัฐ และอังกฤษ หรือที่เรียกว่า AUKUS
รายงานระบุว่า การยกเลิกข้อตกลงนี้ทำให้ฝรั่งเศสไม่พอใจ โดยกล่าวหาทั้งออสเตรเลียและสหรัฐว่าแทงข้างหลัง และตัดสินใจเรียกเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำสหรัฐและออสเตรเลียกลับประเทศ
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ จะพูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส เพื่อหวังคลายความตึงเครียด แต่นายมอร์ริสันกล่าวว่า เขาจะไม่จัดการประชุมทวิภาคีแยกต่างหากกับปธน.ฝรั่งเศส
เมื่อถูกถามว่าจะหารือกับปธน.มาครง นอกรอบการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN) หรือไม่ นายมอร์ริสันแถลงต่อสื่อมวลชนว่า "ตอนนี้ยังไม่มีโอกาสนั้น ผมแน่ใจว่าโอกาสนั้นจะมาเมื่อถึงเวลา"
ด้านกลุ่มประเทศใน EU แสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับฝรั่งเศสเพื่อแสดงความสามัคคี ซึ่งเป็นท่าทีที่นับเป็นภัยคุกคามต่อข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างออสเตรเลียและ EU
ทั้งนี้ ออสเตรเลียและ EU จะจัดการเจรจารอบถัดไปเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าในวันที่ 12 ต.ค.