สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนน 219 ต่อ 212 ผ่านร่างกฎหมายระงับเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้สหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ครั้งแรกในประวัติศาสตร์
อย่างไรก็ดี คาดว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะถูกขัดขวางจากสมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภา โดยที่ผ่านมานั้น พรรครีพับลิกันได้ขัดขวางความพยายามของคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนที่ต้องการจะเพิ่มเพดานหนี้ และพยายามเปิดโปงเจตนารมณ์ของพรรคเดโมแครตที่ต้องการเพิ่มงบประมาณการลงทุนในโครงการด้านสังคมและนโยบายลดโลกร้อน
รายงานระบุว่า ในการโหวตร่างกฎหมายระงับเพดานหนี้เมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ (29 ก.ย.) สมาชิกพรรคเดโมแครตเกือบทุกคนได้โหวตสนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าว ยกเว้นนายจาเร็ด โกลด์เดน ส.ส.จากรัฐเมน และนางเคิร์ท แชรดเดอร์ ส.ส.จากรัฐโอเรกอนที่คัดค้าน ส่วนสมาชิกพรรครีพับลิกันโหวตสนับสนุนเกือบทุกคน ยกเว้นนายอดัม คินซิงเกอร์ ส.ส.จากรัฐอิลลินอยส์
ก่อนหน้านี้ นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้ส่งจดหมายถึงนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐโดยระบุว่า สภาคองเกรสมีเวลาไม่ถึง 3 สัปดาห์ในการพิจารณาเรื่องการขยายเพดานหนี้ และหลีกเลี่ยงหายนะที่จะเกิดกับเศรษฐกิจของประเทศ
"สิ่งที่เราประมาณการในขณะนี้ก็คือว่า เม็ดเงินในมาตรการพิเศษของกระทรวงการคลังจะหมดลงหากสภาคองเกรสไม่ปรับเพิ่มเพดานหนี้หรือระงับเพดานหนี้ภายในวันที่ 18 ต.ค.นี้ ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น เราคาดว่ากระทรวงการคลังจะมีทรัพยากรที่จำกัดมากและจะหมดลงอย่างรวดเร็ว" นางเยลเลนกล่าว
นอกจากนี้ นางเยลเลนเตือนว่า หากสภาคองเกรสล้มเหลวในการเพิ่มเพดานหนี้ ก็จะส่งผลให้สหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศ