ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ผ่านระบบการประชุมทางไกลในวันนี้
การเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกของผู้นำสหรัฐในรอบ 4 ปี และเป็นการส่งสัญญาณว่าสหรัฐยังคงต้องการมีบทบาทในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หลังจากที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้เข้าร่วมการประชุมในปี 2560 ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ แต่หลังจากนั้นก็ได้ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการประชุมถึง 3 ปีติดต่อกัน จนทำให้จีนสามารถแผ่อิทธิพลในภูมิภาคดังกล่าว
ทั้งนี้ การประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐจะมีขึ้นในวันนี้ เวลา 20.00 น.ตามเวลาไทย
นอกจากนี้ ปธน.ไบเดนจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ซึ่งจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ เวลา 18.00 น.ตามเวลาไทย
นักวิเคราะห์ระบุว่า ผู้นำอาเซียนต่างจับตาดูแถลงการณ์ของปธน.ไบเดนเกี่ยวกับแผนการด้านการค้า การลงทุน และโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งแผนการจัดหาวัคซีนต้านโควิด-19 ให้แก่อาเซียน
ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ในการประชุมครั้งนี้ ปธน.ไบเดนจะประกาศขยายความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างสหรัฐและอาเซียน โดยสหรัฐจะมอบเงินช่วยเหลือจำนวน 102 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3,300 ล้านบาทให้แก่อาเซียน เพื่อสนับสนุนโครงการด้านการศึกษา สุขภาพ เศรษฐกิจ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยวงเงิน 40 ล้านดอลลาร์จากจำนวนดังกล่าวจะเป็นการสนับสนุนโครงการป้องกันและสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19
นอกจากนี้ ปธน.ไบเดนจะสร้างความมั่นใจต่ออาเซียนว่า กลุ่มพันธมิตร Quad ซึ่งประกอบด้วย สหรัฐ อินเดีย ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย รวมทั้งการที่สหรัฐทำข้อตกลงจัดหาเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์แก่ออสเตรเลีย ไม่ได้มีความประสงค์ที่จะมาแทนที่บทบาทของอาเซียนในภูมิภาค
นายเอ็ดการ์ด คาแกน ผู้อำนวยการอาวุโสด้านเอเชียตะวันออกและโอเชียเนียของสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ กล่าวก่อนหน้านี้ว่า สหรัฐไม่ได้มองว่ากลุ่ม Quad เป็น "นาโตแห่งเอเชีย" และไม่มีเจตนาแข่งขันกับอาเซียน
นายคาแกนกล่าวว่า สหรัฐมีความสนใจที่จะร่วมมือกับอาเซียนด้านห่วงโซ่อุปทาน การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และรับมือกับ "ความท้าทายร่วมกันทางทะเล" ซึ่งบ่งชี้ถึงการกล่าวอ้างกรรมสิทธิ์ของจีนในพื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้