นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันแห่งออสเตรเลียเปิดเผยในวันนี้ว่า ออสเตรเลียจะดำเนินการตามสหรัฐในการคว่ำบาตรทางการทูตต่อการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ณ กรุงปักกิ่ง
ทั้งนี้ นายมอร์ริสันกล่าวกับผู้สื่อข่าวในนครซิดนีย์ว่า การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้น หลังจีนปฏิเสธข้อเสนอหารือประเด็นข้อกล่าวหาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ทางภาคตะวันตกของประเทศจีน ตลอดจนประเด็นที่น่ากังวลอื่น ๆ
"ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลออสเตรเลียตัดสินใจที่จะไม่เข้าร่วมงานแข่งขันกีฬาที่จีนเป็นเจ้าภาพ แต่นักกีฬาออสเตรเลียจะยังคงเข้าร่วมการแข่งขันตามปกติ" นายมอร์ริสันกล่าว
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและออสเตรเลียเผชิญความตึงเครียดเมื่อไม่นานมานี้จากประเด็นการค้าและอื่น ๆ รวมถึงกรณีที่ออสเตรเลียเรียกร้องให้มีการสอบสวนต้นกำเนิดของการเกิดโรคโควิด-19
จีนตอบโต้ด้วยการสั่งระงับการประชุมระดับรัฐมนตรีทั้งหมดระหว่าง 2 ประเทศและเรียกเก็บภาษีสินค้าส่งออกหลายประเภทของออสเตรเลีย เช่น ถ่านหิน เนื้อวัวและไวน์
นายมอร์ริสันกล่าวเสริมว่า หากจีนตอบโต้ทางการเมืองหรือเศรษฐกิจจากกรณีคว่ำบาตรทางการทูตกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้จะถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ "ไม่อาจยอมรับได้อย่างสิ้นเชิง และไม่มีเหตุผลรองรับการกระทำดังกล่าวแม้แต่น้อย"
คณะบริหารภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐได้ออกมาระบุเมื่อวันจันทร์ (6 ธ.ค.) ว่า สหรัฐจะไม่ส่งผู้แทนทางการทูตเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว ซึ่งมีกำหนดเปิดฉากในวันที่ 4 ก.พ. 2565
ทางฟากฝั่งของจีนได้ออกมาตอบโต้ทันควันโดยวิจารณ์ว่า สหรัฐใช้งานโอลิมปิกเป็นเวทีสำหรับการแสดงและการปลุกปั่นทางการเมือง
ส่วนนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะแห่งญี่ปุ่นได้ระบุว่า เขาจะตัดสินใจกรณีดังกล่าวโดยพิจารณาถึงประโยชน์ของชาติและความสำคัญของงานดังกล่าวเป็นหลัก
เมื่อวานนี้ (7 ธ.ค.) นิวซีแลนด์ระบุว่า จะไม่ส่งผู้แทนทางการทูตเข้าร่วมงานโอลิมปิกดังกล่าวด้วยเช่นกัน โดยให้เหตุผลหลายประการ แต่หลัก ๆ แล้วเป็นเพราะวิตกกังวลเรื่องโรคโควิด-19