ทั้งนี้ ตำรวจในเมืองเซินเจิ้นทางภาคใต้ของประเทศจีนตรวจพบ "ความเสี่ยง" 19 จุดในระบบเครือข่ายของวอลมาร์ทในช่วงปลายเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา และกล่าวหาว่า วอลมาร์ทดำเนินการล่าช้าในการแก้ไขช่องโหว่เหล่านั้น และสั่งการให้วอลมาร์ทแก้ไขปัญหาให้เสร็จสิ้น โดยไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องค่าปรับ หรือรายละเอียดของความเสี่ยงที่เกิดขึ้น
ประเด็นดังกล่าวถือเป็นปัญหาล่าสุดในจีนที่วอลมาร์ทต้องเผชิญ หลังถูกสื่อท้องถิ่นวิพากษ์วิจารณ์ในเดือนที่ผ่านมาว่า วอลมาร์ทจงใจถอดผลิตภัณฑ์จากซินเจียงออกจากแอปพลิเคชันและร้านค้า
ซินเจียงกลายเป็นประเด็นความขัดแย้งที่ลุกลามระหว่างรัฐบาลจากประเทศตะวันตกและจีน ขณะที่ ผู้เชี่ยวชาญองค์การสหประชาชาติ (UN) และกลุ่มนักสิทธิมนุษยชนประเมินว่า ประชาชนกว่า 1 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยมุสลิมต่าง ๆ ถูกควบคุมตัวอยู่ในค่ายกักกันของเขตซินเจียง
ด้านจีนยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการบังคับใช้แรงงานหรือข่มเหงประชาชนในเขตซินเจียง
วอลมาร์ทเผชิญกระแสการยกเลิกการเป็นสมาชิก Sam's Club ซึ่งเป็นธุรกิจร้านค้าปลีกในเครือวอลมาร์ทในประเทศจีนนับตั้งแต่เกิดประเด็นซินเจียง
นอกจากนี้ หน่วยงานต่อต้านการทุจริตของจีนยังได้กล่าวหาว่า วอลมาร์ทและ Sam's Club "โง่เขลาและขาดวิสัยทัศน์"
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐได้ลงนามบังคับใช้ "กฎหมายป้องกันการบังคับใช้แรงงานชาวอุยกูร์ (Uyghur Forced Labor Prevention Act)" ซึ่งห้ามนำเข้าสินค้าจากภูมิภาคซินเจียงของจีน เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับการบังคับใช้แรงงานชนกลุ่มน้อยชาวอุยกูร์ที่อาศัยอยู่ในมณฑลดังกล่าว ทำให้จีนไม่พอใจและออกมาประณามกฎหมายดังกล่าว