สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานถ้อยแถลงของนายโดมินิก ร้าบ รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษเมื่อวานนี้ (23 ม.ค.) ว่า รัสเซียจะเผชิญกับการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงหากตั้งรัฐบาลหุ่นเชิดขึ้นในยูเครน
"รัสเซียจะเจอผลที่ตามมาอย่างร้ายแรงมาก หากใช้การเคลื่อนไหวนี้เพื่อพยายามบุกยูเครน รวมถึงการตั้งรัฐบาลหุ่นเชิดด้วย" นายร้าบเปิดเผยกับสำนักข่าวสกายนิวส์
ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่กระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษกล่าวหารัสเซียว่าพยายามจัดตั้งผู้นำที่มีแนวคิดสนับสนุนรัสเซียขึ้นในยูเครน และกล่าวว่าเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของรัสเซียได้ติดต่อกับอดีตนักการเมืองยูเครนจำนวนหนึ่ง โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนการบุกยูเครน
อย่างไรก็ดี กระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาของอังกฤษว่าเป็น "ข้อมูลเท็จ" โดยกล่าวโทษองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต (NATO) ว่า "เพิ่มระดับความตึงเครียด" ในเรื่องยูเครน
ทั้งนี้ คำกล่าวอ้างของอังกฤษมีขึ้นหลังจากที่นักการทูตระดับสูงของสหรัฐกับรัสเซียไม่สามารถเจรจาหาทางออกเพื่อแก้ไขวิกฤตในยูเครน ซึ่งปะทุขึ้นเมื่อรัสเซียเริ่มสั่งสมกองกำลังนับ 100,000 รายตามแนวชายแดนติดกับยูเครน
อนึ่ง เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลรัสเซียยืนยันว่าตนไม่มีแผนจะบุกรุก และทั้งรัสเซียทั้งสหรัฐต่างตกลงที่จะหารือกันต่อไป อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ยังคงมีความตึงเครียดในระดับสูง
ด้านกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ได้ประกาศคำสั่งให้สมาชิกครอบครัวของผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ในสถานทูตสหรัฐประจำกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน รีบหนีออกจากยูเครน เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของกองทัพรัสเซีย
เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงกล่าวว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ได้เริ่มพิจารณาเพิ่มกำลังทหารในภูมิภาคดังกล่าวหลังมีประชุมกับคณะผู้ช่วยด้านความมั่นคงแห่งชาติระดับสูงที่แคมป์เดวิด ซึ่งเป็นสถานที่พักผ่อนของปธน.สหรัฐในวันเสาร์ที่ผ่านมา (22 ม.ค.)
นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์ ยังรายงานว่า ปธน.ไบเดน กำลังพิจารณาส่งทหารประมาณ 1,000-5,000 นายไปยุโรปตะวันออกและแถบบอลติก และอาจเพิ่มจำนวนอีกหลายเท่าหากจำเป็น ทั้งยังอาจส่งเรือรบและเครื่องบินไปยังชาติสมาชิก NATO ด้วย