นายจอห์น เฮิร์บสท์ อดีตทูตสหรัฐประจำยูเครน แสดงความเห็นว่า หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินอาจบุกยูเครน แต่อาจจะยังหวั่นใจกับคำเตือนของรัฐบาลสหรัฐถึงผลกระทบที่ตามมา ทั้งนี้ นายเฮิร์บสท์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการอาวุโสประจำศูนย์ยูเรเซียแห่งสภาแอตแลนติก ระบุว่า ความคิดที่ว่ารัสเซียอาจยกระดับสถานการณ์ในยูเครนนั้นมีเหตุผลที่เป็นไปได้ เมื่อดูจากกองกำลังทหารหลายพันนายที่ประจำการอยู่ตามแนวชายแดน และท่าทีที่แข็งกร้าวอย่างต่อเนื่องของรัสเซีย
ด้านสำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า สหรัฐและชาติพันธมิตรมีความกังวลว่า รัสเซียจะบุกโจมตียูเครนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า แม้ว่ารัฐบาลรัสเซียจะบอกว่าไม่มีแผนบุกยูเครนก็ตาม
"ส่วนตัวแล้วผมคิดว่า มีความเป็นไปได้ แต่ปธน.ปูตินยังกลัวการตอบโต้" นายเฮิร์บสท์ให้สัมภาษณ์ในรายการ Street Signs Asia ของสำนักข่าวซีเอ็นบีซีเมื่อวันจันทร์ (24 ม.ค.)
"แต่หากปูตินตัดสินใจบุกยูเครนจริง การตอบโต้ของไบเดนอาจเป็นการพูดข่มมากกว่าจะทำจริง รัสเซียอาจสั่งสมกองกำลังไว้มากในยูเครน นอกเหนือจากที่ประจำการอยู่ในดอนบาสและไครเมีย ผมคิดว่าอย่างน้อย ๆ การเผชิญหน้าจะกินเวลาออกไป 6-8 สัปดาห์"
ทั้งนี้ ตามแผนกดดันรัสเซียที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนวางไว้นั้น ประกอบด้วยการส่งอาวุธให้กับยูเครน การเคลื่อนย้ายกองกำลังองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต (NATO) ไปตามแนวพรมแดนรัสเซีย รวมถึงการออกมาตรการคว่ำบาตรหากรัสเซียบุกยูเครน
นายเฮิร์บสท์กล่าวว่า สหรัฐและชาติพันธมิตรจำเป็นต้องกดดันรัสเซียอย่างหนัก เนื่องจากที่ผ่านมาการประนีประนอมใช้ไม่ได้ผลในช่วงที่รัสเซียบุกจอร์เจียและไครเมีย ซึ่งรัสเซียนั้นแทบจะไม่ได้รับผลใด ๆ ตามมา
อดีตทูตสหรัฐระบุว่า แผนของสหรัฐมีความสมเหตุสมผลอยู่ แต่ยังขาดประสิทธิภาพ ต้องให้เร็วและดุดันกว่านี้ และต้องทำร่วมกับพันธมิตร