นายเซอร์เก คอร์ซันสกี้ เอกอัครราชทูตยูเครนประจำประเทศญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยูเครนตั้งใจหาทางออกด้วยการเจรจาสำหรับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างยูเครนและรัสเซียในปัจจุบัน และได้กล่าวเสริมว่า ความขัดแย้งครั้งนี้ไม่น่าจะลุกลามกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ แม้อาจเกิดความขัดแย้งในระดับท้องถิ่นบ้าง
"ผมคิดว่ามีความเป็นไปได้น้อยมากที่จะเกิดสงครามเต็มรูปแบบ แต่เราก็อาจได้เห็นความขัดแย้งระดับท้องถิ่นอยู่บ้าง" นายคอร์ซันสกี้กล่าวในแถลงข่าว "ในส่วนของกองทัพ ผมรับรองได้ว่าเรามีความพร้อมเต็มที่ กองทัพของเรามีความพร้อมอย่างที่สุด"
ขณะนี้สถานการณ์ยูเครนได้ทวีความตึงเครียด โดยมีรายงานว่ารัสเซียกำลังตรึงกำลังทหารเกือบ 100,000 นายประชิดชายแดนยูเครน และอาจบุกโจมตียูเครนในไม่ช้า ขณะที่การเจรจาระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตกเพื่อแก้ไขความขัดแย้งเกี่ยวกับยูเครนยังคงไม่มีความคืบหน้า
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐยังได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เขาเตรียมใช้มาตรการคว่ำบาตรกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย หากปธน.ปูตินสั่งการให้กองทัพรัสเซียบุกเข้าเขตแดนของยูเครน อีกทั้งบรรดาผู้นำของชาติตะวันตกยังได้ยกระดับความพร้อมของกองทัพ และดำเนินการต่าง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ยุโรปได้รับผลกระทบจากปัญหากับซัพพลายพลังงานที่อาจเกิดขึ้น
นายคอร์ซันสกี้เตือนว่า การบุกโจมตียูเครน ซึ่งเป็นที่ตั้งของเตาปฏิกรณ์หลายสิบแห่ง จะนำมาซึ่งความเสียหายครั้งใหญ่สำหรับภูมิภาคยุโรป
"หากมีสงครามเกิดขึ้นจริง ก็จะนับว่าเป็นสงครามครั้งแรกที่เกิดขึ้นในประเทศที่มีเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 15 แห่ง รวมถึงท่อส่งก๊าซและน้ำมันที่มีความยาวรวม 30,000 กิโลเมตร" นายคอร์ซันสกี้ระบุ
"ถ้าโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ถูกทำลาย ยูเครนก็คงไม่อาจคงอยู่ได้อีกต่อไป ... ยุโรปตอนกลางอาจจะล่มสลาย รวมถึงยุโรปตะวันตกก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน" นายคอร์ซันสกี้กล่าวเสริม
อนึ่ง เมื่อปี 2529 เกิดเหตุเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ระเบิดขึ้น ณ เมืองเชอร์โนบิลซึ่งตั้งอยู่ในยูเครน ส่งผลให้กากนิวเคลียร์จำนวนมากฟุ้งกระจายสู่ชั้นบรรยากาศ จนทำให้หลายพื้นที่ในยุโรปปนเปื้อนกัมมันตรังสี และประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงล้มป่วยด้วยโรคมะเร็ง