สภาความมั่นคงและป้องกันตนเองของเมียนมาออกแถลงการณ์ระบุว่า รัฐบาลกองทัพเมียนมาได้ประกาศขยายภาวะฉุกเฉินออกไปอย่างเป็นทางการจนถึงวันที่ 31 ก.ค.นี้
ทั้งนี้ นายมินต์ ส่วย รักษาการประธานาธิบดีได้อนุมัติการขยายเวลาดังกล่าวตามคำขอของพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา โดยให้เหตุผลว่าเพื่อรักษาเสถียรภาพของประเทศ ความปลอดภัยของประชาชน และสร้างสันติภาพซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญ โดยสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งชาติเมียนมา (MRTV) รายงานโดยอ้างคำพูดของผู้นำกองทัพเมียนมาว่า "ความรุนแรงยังคงมีอยู่ในบางพื้นที่ เช่น รัฐกะยา รัฐชิน และเขตภูมิภาคสะกาย เรากำลังพยายามเต็มที่เพื่อแก้ไขปัญหาอยู่"
ทั้งนี้ ตามรัฐธรรมนูญปี 2551 กำหนดให้ผู้นำกองทัพต้องขอความเห็นชอบจากประธานาธิบดีในที่ประชุมสภาก่อนที่จะขยายเวลาประกาศภาวะฉุกเฉิน โดยก่อนหน้านี้ ผู้นำกองทัพของเมียนมาได้ให้คำมั่นว่า จะจัดการเลือกตั้งในเดือนส.ค. 2566
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ได้กล่าวสุนทรพจน์ในวันนี้ เนื่องในโอกาสครบรอบหนึ่งปีที่ก้าวขึ้นมาปกครองประเทศ ขณะเดียวกัน มีการคาดการณ์ว่า ผู้นำทหารเมียนมาจะยังคงเผชิญปัญหาเศรษฐกิจที่ผันผวนในปีที่สองจากแรงกดดันของนานาชาติ
ด้านองค์กรช่วยเหลือนักโทษการเมือง (AAPP) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เหตุรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ปีที่แล้ว กองทัพเมียนมาได้สังหารประชาชนไปกว่า 1,500 คน และมีประชาชนถูกจับกุมไปเกือบ 12,000 คน ขณะที่สหรัฐได้ออกมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่กับบุคคลชาวเมียนมา 7 ราย และองค์กรอีก 2 แห่งที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลทหาร