ปธน.โจ ไบเดนได้หารือทางโทรศัพท์กับสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานแห่งซาอุดีอาระเบีย ในประเด็นการจัดหาพลังงานและการพัฒนาในตะวันออกกลาง ซึ่งรวมถึงปัญหาในอิหร่านและเยเมน
ทำเนียบขาวระบุในแถลงการณ์ว่า "ผู้นำทั้งสองได้ให้คำมั่นที่จะสร้างหลักประกันถึงเสถียรภาพในการจัดหาพลังงานทั่วโลก"
นอกจากนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานยังได้กล่าวถึงการรักษาสมดุลและเสถียรภาพในตลาดน้ำมัน และเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการรักษากำลังการผลิตน้ำมันตามข้อตกลงของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส
ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบโลกซึ่งพุ่งขึ้นถึง 20% ในปีนี้ มีแนวโน้มที่จะทะยานสู่ระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง และการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความต้องการน้ำมันมากนัก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อความนิยมของปธน.ไบเดน ซึ่งจะเป็นอุปสรรคสำหรับพรรคเดโมแครตที่ต้องการคะแนนเสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาในการเลือกตั้งช่วงเดือนพ.ย.ปีนี้ โดยก่อนหน้านี้ ปธน.ไบเดนให้คำมั่นที่จะดำเนินการต่าง ๆ เพื่อทำให้ราคาน้ำมันลดลง ผ่านการระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในตลาด และลดอิทธิพลของโอเปกในการกำหนดราคาน้ำมัน โดยร่วมมือกับอินเดีย, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และจีน
ทำเนียบขาวระบุว่า ในระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์ ปธน.ไบเดนได้เน้นย้ำว่า สหรัฐพร้อมที่จะสนับสนุนซาอุดีอาระเบียในการป้องกันประเทศจากการโจมตีของกลุ่มกบฏฮูตีของเยเมน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอิหร่าน อันเป็นคู่ปรับของซาอุดีอาระเบีย