นายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐได้สั่งการให้ทหารอเมริกันที่เคลื่อนพลเข้าประจำการในยูเครนเมื่อปีที่ผ่านมา ถอนทัพและย้ายไปประจำการยังประเทศอื่นในยุโรปเพื่อความปลอดภัย ขณะที่ทหารรัสเซียประมาณ 100,000 นายพร้อมอาวุธล้ำสมัยตรึงกำลังตามแนวชายแดนตะวันออกของยูเครนและแนวชายแดนเหนือของเบลารุส ซึ่งเป็นพันธมิตรของรัสเซีย
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ในเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว สมาชิกกองกำลังพิทักษ์ชาติแห่งฟลอริดา (Florida National Guard) จำนวน 160 นายประจำกรมผสมทหารราบที่ 53 ได้ระดมกำลังไปประจำการยังยูเครน เพื่อปฏิบัติภารกิจฝึกให้กับทหารท้องถิ่น
"ท่านรัฐมนตรีออสตินตัดสินใจเช่นนี้เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน โดยคำนึงถึงความสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยของบุคลากรของเรามากที่สุด และสอดคล้องกับข้อเสนอแนะเกี่ยวกับบุคลากรของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐที่ประจำการอยู่ในยูเครน" นายจอร์น เคอร์บีย์ โฆษกเพนตากอนระบุในแถลงการณ์
"การปรับเปลี่ยนกำลังทหารครั้งนี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงพันธสัญญาของเราในการสนับสนุนกองทัพยูเครน แต่จะสร้างความคล่องตัวและสร้างความมั่นใจให้กับพันธมิตรและขัดขวางการรุกราน"
นอกจากนี้ ประเทศอื่น ๆ รวมถึง เนเธอร์แลนด์ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่นและสหราชอาณาจักรก็ได้แนะนำให้พลเมืองของตนเองเดินทางออกจากยูเครน ขณะเดียวกัน สายการบิน KLM ของเนเธอร์แลนด์ได้ยกเลิกเที่ยวบินไปกรุงเคียฟอย่างไม่มีกำหนดในวันเสาร์ที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลเรื่องความเสี่ยงด้านการเดินทางและ "การวิเคราะห์ด้านความปลอดภัยแบบครอบคลุม"