ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียไม่ต้องการทำสงครามในยุโรป ขณะที่ประวัติศาสตร์บ่งชี้ว่า องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ได้เคยทำสงครามต่อยูโกสลาเวีย โดยไม่ถูกคว่ำบาตรจากสหประชาชาติ
"เราได้เห็นสงครามในยุโรปที่เกิดจากการที่นาโตเข้าโจมตียูโกสลาเวีย โดยมีการใช้ขีปนาวุธและระเบิดถล่มกรุงเบลเกรด โดยไม่ถูกคว่ำบาตรจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ นี่คือตัวอย่างที่แย่มาก" ปธน.ปูตินกล่าวในการแถลงข่าวร่วมกับนายโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี
อย่างไรก็ดี นายโชลซ์กล่าวว่า สถานการณ์ในยูโกสลาเวียแตกต่างจากในยูเครน เนื่องจากเกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ซึ่งนานาชาติจะต้องเข้าป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าว
ทางด้านปธน.ปูตินกล่าวตอบว่า ในแง่ของรัสเซีย สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในดอนบาสก็คือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ปธน.ปูตินกล่าวถ้อยแถลงดังกล่าว หลังจากที่สภาดูมา ซึ่งเป็นสภาผู้แทนราษฎรรัสเซีย ให้การอนุมัติร่างกฎหมายรับรองสถานะการเป็นรัฐอิสระของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์-ลูฮันสก์ ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคดอนบาสของยูเครน ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ฝักใฝ่รัสเซีย
ทั้งนี้ สมาชิกรัฐสภาให้การรับรองร่างกฎหมายดังกล่าวจำนวน 351 เสียง คัดค้าน 16 เสียง
นายยาเชสลาฟ โวโลดิน ประธานสภาดูมา กล่าวว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้จะถูกส่งต่อไปยังปธน.ปูตินโดยทันทีเพื่อลงนามเป็นกฎหมาย ซึ่งจะเป็นการรับรองสถานะการเป็นรัฐอิสระและมีอธิปไตยของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์-ลูฮันสก์
"ยูเครนไม่ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงมินสก์ ขณะที่ประชาชนของเราที่อยู่ในดอนบาสจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือ และปกป้องจากภัยคุกคามจากภายนอก รวมทั้งจะเป็นการสร้างเสถียรภาพในภูมิภาค" นายโวโลดินกล่าว
อย่างไรก็ดี หากปธน.ปูตินให้การรับรองกฎหมายดังกล่าวอย่างเป็นทางการ ก็จะเป็นการสร้างความขัดแย้งครั้งใหม่ต่อวิกฤตการณ์ในยูเครน เนื่องจากการรับรองสถานะการเป็นรัฐอิสระของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์-ลูฮันสก์ จะถือเป็นการฉีกข้อตกลงมินสก์ ซึ่งมีเป้าหมายในการยุติสงครามแบ่งแยกดินแดนในดอนบาส หลังจากที่ได้คร่าชีวิตของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนและกองกำลังยูเครนถึง 15,000 คน