ทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะหารือกับชาติพันธมิตรในวันนี้เวลา 14.30 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือเวลา 02.30 น.ของวันพรุ่งนี้ (19 ก.พ.) ตามเวลาไทย เกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในยูเครน
ทั้งนี้ ปธน.ไบเดนจะหารือกับผู้นำของแคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี โปแลนด์ โรมาเนีย สหราชอาณาจักร สหภาพยุโรป และองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต)
นอกจากนี้ ปธน.ไบเดนจะทำการแถลงข่าวในวันนี้เวลา 16.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือเวลา 04.00 น.ของวันพรุ่งนี้ (19 ก.พ.) ตามเวลาไทย
แถลงการณ์ระบุว่า ปธน.ไบเดนจะกล่าวเกี่ยวกับความพยายามของสหรัฐในการใช้วิถีการทูตในการแก้ไขวิกฤตการณ์ในยูเครน รวมทั้งการสั่งสมกำลังทหารของรัสเซียตามแนวชายแดนยูเครน
นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เหตุการณ์ปะทะกันเป็นวันที่ 2 ระหว่างกองกำลังยูเครนและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ฝักใฝ่รัสเซีย ถือเป็นการจัดฉากของรัสเซียเพื่อเป็นข้ออ้างในการโจมตียูเครน
แหล่งข่าวทางการทูตระบุว่า การปะทะกันในครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2558 ที่มีการทำข้อตกลงหยุดยิง โดยมีเสียงระเบิดดังขึ้นถึง 600 ครั้งในเช้าวันนี้ จากจำนวน 500 ครั้งวานนี้ โดยคาดว่ามาจากกระสุนปืนใหญ่และกระสุนปืนครกขนาด 152 มม. และ 122 มม.
ด้านนายเดนิส พูชิลิน ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ทางตะวันออกของยูเครน ได้สั่งให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวทำการอพยพไปยังรัสเซีย หลังถูกยิงโจมตีจากกองกำลังยูเครน
นายพูชิลินกล่าวว่า รัสเซียได้ตกลงที่จะให้ที่พักอาศัยแก่ประชาชนแล้ว โดยผู้ที่เป็นเด็ก สตรี และคนชราควรรีบอพยพก่อน
ทั้งนี้ สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์-ลูฮันสก์ตั้งอยู่ในภูมิภาคดอนบาสทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งกลุ่มกบฎฝักใฝ่รัสเซียยึดครองอยู่
นายไมเคิล คาร์เพนเตอร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำองค์การความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (OSCE) กล่าวว่า รัสเซียได้เพิ่มกำลังทหารสู่ระดับ 190,000 นายใกล้ชายแดนยูเครนในขณะนี้
"เราประเมินว่ารัสเซียมีกำลังทหารราว 169,000-190,000 นายใกล้ชายแดนยูเครน เมื่อเทียบกับราว 100,000 นายเมื่อวันที่ 30 ม.ค. ซึ่งถือเป็นการเคลื่อนกำลังทหารครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรปของรัสเซียนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2" นายคาร์เพนเตอร์กล่าว