นางลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ (UN) เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังร่วมมือกับบรรดาชาติพันธมิตร และจะประกาศการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซียในวันนี้ (22 ก.พ.) หลังจากรัสเซียให้การรับรองเอกราชแก่แคว้นโดเนตสก์และลูฮันสก์ และส่งกองกำลังทหารเข้าไปยัง 2 แคว้นดังกล่าวซึ่งฝักใฝ่รัสเซีย
"ในวันอังคารที่ 22 ก.พ.นี้ สหรัฐจะประกาศคว่ำบาตรรัสเซีย ฐานจงใจละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ตลอดจนอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน เราจะดำเนินการคว่ำบาตรรัสเซีย และจะยืนหยัดร่วมกับชาติพันธมิตรของเรา เพื่อเรียกร้องให้รัสเซียถอนกองกำลังทหารออกจากทั้ง 2 แคว้นดังกล่าว และกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาทางการทูต รวมทั้งร่วมมือกันเพื่อนำไปสู่สันติภาพ" นางโธมัส-กรีนฟิลด์กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่ง UN ในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย
นางโธมัส-กรีนด์ฟิลด์ยังกล่าวด้วยว่า "ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของรัสเซียนั้น จะสร้างความเสียหายต่อยูเครน ยุโรป และทั่วโลก ประธานาธิบดีปูตินได้ฉีกข้อตกลงมินสก์ และเราเชื่อว่าเขาจะไม่หยุดอยู่แค่นั้น"
ทั้งนี้ ปธน.ปูตินลงนามในกฤษฎีการับรองสถานะการเป็นรัฐอิสระและเอกราชของแคว้นโดเนตสก์และลูฮันสก์ พร้อมกับส่งกองกำลังทหารรัสเซียเข้าประจำการใน 2 แคว้นดังกล่าว โดยอ้างว่ามีเป้าหมายที่จะรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อย
อย่างไรก็ดี หลายฝ่ายกังวลว่า การตัดสินใจดังกล่าวของปธน.ปูตินจะส่งผลให้ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตกทวีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากการรับรองสถานะของ 2 แคว้นกบฏยูเครนถือเป็นการฉีกข้อตกลงมินสก์ ซึ่งมีเป้าหมายในการยุติสงครามแบ่งแยกดินแดนในดอนบาส หลังจากที่ได้คร่าชีวิตของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนและกองกำลังยูเครนไปแล้วราว 15,000 คน