สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า รัฐบาลยูเครนได้ขอความร่วมมือจากอาสาสมัครกลุ่มแฮกเกอร์ใต้ดินให้ช่วยปกป้องโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ และปฏิบัติภารกิจสอดแนมทางไซเบอร์เพื่อต่อต้านกองทัพรัสเซีย
ทั้งนี้ มีผู้เห็นประกาศรับอาสาสมัครบนฟอรัมของกลุ่มแฮกเกอร์เมื่อเช้าวันพฤหัสบดี (24 ก.พ.) ขณะที่กองทัพรัสเซียได้เข้าโจมตีหลายเมืองในยูเครน และประชาชนจำนวนมากลี้ภัยออกจากกรุงเคียฟ
ประกาศดังกล่าวมีใจความว่า "ชุมชนไซเบอร์ชาวยูเครน ถึงเวลาแล้วที่เราจะมีส่วนร่วมในการป้องกันประเทศของเราจากภัยคุกคามทางไซเบอร์" พร้อมกับขอให้แฮกเกอร์และผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ยื่นใบสมัครผ่านทางกูเกิลดอค พร้อมระบุความเชี่ยวชาญของตนเอง เช่น การพัฒนามัลแวร์ รวมถึงบุคคลที่ยืนยันความเชี่ยวชาญของผู้สมัครได้
นายอิกอร์ อูเชฟ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไซเบอร์ ยูนิต เทคโนโลยีส์ ซึ่งเป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ในกรุงเคียฟที่ทำงานด้านการป้องกันโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญร่วมกับรัฐบาลยูเครน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ได้โพสต์ประกาศดังกล่าวตามคำขอจากเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสในกระทรวงกลาโหมรายหนึ่ง หลังได้รับการติดต่อในวันพฤหัสบดี
แหล่งข่าวอีกรายยืนยันว่า คำขอดังกล่าวมาจากกระทรวงกลาโหมในตอนเช้าวันพฤหัสบดี
อย่างไรก็ดี ตัวแทนกระทรวงกลาโหมของยูเครนยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ด้านผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารของสถานทูตยูเครนในสหรัฐกล่าวว่า "ไม่สามารถยืนยันหรือปฏิเสธข้อมูลที่มาจากช่องทางเทเลแกรมได้" และปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเพิ่มเติม
นายอูเชฟยังเผยว่า อาสาสมัครจะถูกแบ่งออกเป็นฝ่ายโจมตีและฝ่ายป้องกันทางไซเบอร์ โดยฝ่ายป้องกันจะป้องกันโครงสร้างพื้นฐาน เช่น โรงไฟฟ้าและระบบน้ำ โดยก่อนหน้านี้ในปี 2558 ได้เกิดการโจมตีทางไซเบอร์ขึ้นในยูเครน ซึ่งเชื่อกันว่าเกิดจากแฮกเกอร์ของรัฐบาลรัสเซีย ทำให้ชาวยูเครน 225,000 รายไม่มีไฟฟ้าใช้