ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้สั่งการให้กองกำลังป้องปรามด้วยอาวุธนิวเคลียร์ (Nuclear Deterrent Forces) เตรียมพร้อมในระดับสูงสุด หลังจากบรรดาชาติพันธมิตรขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ส่งสัญญาณอันแข็งกร้าวว่าจะตอบโต้รัสเซีย ซึ่งรวมถึงการตอบโต้ด้วยมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ หลังจากที่รัสเซียตัดสินใจบุกยูเครน
ปธน.ปูตินได้ออกแถลงการณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลรัสเซียวานนี้ว่า "ท่านได้เห็นแล้วว่า ไม่เพียงแต่ชาติตะวันตกเท่านั้นที่ใช้มาตรการที่ไม่เป็นมิตรต่อรัสเซียโดยเฉพาะมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของนาโตยังได้ใช้ถ้อยคำที่แข็งกร้าวทุกครั้งที่กล่าวถึงรัสเซีย"
นางลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ (UN) กล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการ "Face the Nation" ของสำนักข่าวซีบีเอสว่า การกระทำของปธน.ปูตินถือเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ และยังเป็นการเพิ่มความขัดแย้งให้ลุกลามบานปลาย นอกจากนี้ นางโธมัส-กรีนด์ฟิลด์กล่าวว่า สหรัฐอาจจะใช้มาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อรัสเซีย
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (25 ก.พ.) กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซียได้แก่ นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศ, นายเซอร์เก ชอยกู รมว.กลาโหม และนายวาเลรี เจราซิมอฟ เสนาธิการทั่วไป เพื่อตอบโต้กรณีที่รัสเซียบุกโจมตียูเครน