องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า โรงพยาบาลในยูเครนอาจไม่มีออกซิเจนสำหรับผู้ป่วยในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า เนื่องจากการโจมตีของรัสเซียส่งผลให้การลำเลียงขนส่งหยุดชะงักลง ส่งผลให้ชาวยูเครนหลายพันคนต้องตกอยู่ในความเสี่ยง
ทั้งนี้ WHO ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (27 ก.พ.) ว่า รถบรรทุกไม่สามารถขนส่งออกซิเจนจากโรงงานผลิตไปยังโรงพยาบาลในประเทศ รวมถึงในกรุงเคียฟได้ เนื่องจากเส้นทางถูกปิดกั้นหลังรัสเซียยิงขีปนาวุธเข้าใส่
นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ WHO และนายฮานส์ คลูจ ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคยุโรปและเอเชียกลางของ WHO ออกแถลงการณ์ร่วมระบุว่า "สถานการณ์การจัดหาออกซิเจนในยูเครนใกล้จะเข้าสู่จุดที่ล่อแหลมอย่างมาก โรงพยาบาลส่วนใหญ่อาจไม่มีออกซิเจนสำรองเหลืออยู่ในช่วง 24 ชั่วโมงข้างหน้า ขณะที่บางแห่งไม่มีออกซิเจนเหลือแล้ว ทำให้ประชาชนหลายพันคนตกอยู่ในความเสี่ยง"
WHO ระบุว่า ยูเครนจำเป็นต้องใช้ออกซิเจนเพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนที่รัสเซียจะบุกโจมตีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเรียกร้องให้กำหนดเส้นทางการลำเลียงขนส่งที่ปลอดภัยเพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนในยูเครน โดยใช้เส้นทางโลจิสติกส์ผ่านทางโปแลนด์แทน
นอกจากนี้ WHO ยังระบุว่าการให้บริการที่จำเป็นของโรงพยาบาลยังเสี่ยงที่จะขาดแคลนไฟฟ้าและพลังงาน ขณะที่รถพยาบาลที่ส่งตัวผู้ป่วยตกอยู่ในวงล้อมของการสู้รบระหว่างกองกำลังของรัสเซียและยูเครน
ขณะเดียวกัน ปริมาณออกซิเจนยังจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยโควิด-19, ผู้ที่มีภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์และคลอดบุตร, โรคเรื้อรัง, ภาวะติดเชื้อ รวมถึงผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยยูเครนมีผู้ป่วยโควิด-19 ประมาณ 1,700 คนที่ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล