บริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์ชื่อดังของฮอลลีวูดได้พากันระงับการนำภาพยนตร์ออกฉายในรัสเซีย เพื่อตอบโต้กรณีรัสเซียใช้กำลังทหารบุกโจมตียูเครน
บริษัทวอลท์ ดิสนีย์ เป็นสตูดิโอภาพยนตร์ฮอลลีวูดรายแรกที่ประกาศระงับการนำภาพยนตร์ทุกเรื่องของดิสนีย์เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ของรัสเซีย ตามด้วยบริษัทวอร์เนอร์ บราเธอร์ส, โซนี่ พิกเจอร์, สมาคมภาพยนตร์แห่งสหรัฐ (MPA) และเน็ตฟลิกซ์
วอลท์ ดิสนีย์ระบุในแถลงการณ์ว่า "เมื่อพิจารณาจากการที่รัสเซียรุกรานยูเครนโดยที่ยูเครนไม่เคยกระทำการยั่วยุ และวิกฤตการณ์ด้านมนุษยชนที่เกิดขึ้นกับยูเครนในขณะนี้ ดิสนีย์ได้ตัดสินใจที่จะระงับการนำภาพยนตร์ทั้งหมดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ของรัสเซีย ซึ่งรวมถึงภาพยนตร์เรื่องใหม่ ๆ เช่น 'Turning Red' จากค่ายพิกซาร์ ส่วนการตัดสินใจในอนาคตนั้น เราจะพิจารณาเกี่ยวกับความคืบหน้าของสถานการณ์"
ทางด้านวอร์เนอร์ บราเธอร์ส กล่าวว่า ทางบริษัทระงับการฉายภาพยนตร์เรื่อง "Batman" ในรัสเซีย ซึ่งเดิมมีกำหนดออกฉายในสัปดาห์นี้ ขณะที่โซนี่ได้ประกาศเลื่อนแผนการนำภาพยนตร์ทั้งหมดเข้าฉายในรัสเซีย ซึ่งรวมถึงภาพยนตร์เรื่องใหม่คือ "Mobius"
ส่วนสมาคมภาพยนตร์แห่งสหรัฐได้ออกแถลงการณ์ว่า "สมาคมฯขอยืนเคียงข้างประชาคมโลกในการยึดมั่นตามกฎหมายและประณามรัสเซียที่ใช้กำลังทหารรุกรานยูเครน เราในฐานะตัวแทนของสมาชิกซึ่งเป็นผู้ผลิตภาพยนตร์ รายการทีวี และธุรกิจสตรีมมิ่ง เราขอแสดงเจตนารมณ์อันแรงกล้าในการสนับสนุนประชาชนชาวยูเครน เพราะพวกเขาควรค่าที่จะมีชีวิตและทำงานอย่างมีสันติ"
นอกจากนี้ เน็ตฟลิกซ์ ซึ่งเป็นบริษัทสตรีมมิ่งภาพยนตร์รายใหญ่ยืนยันว่าทางบริษัทจะไม่ทำตามกฎของรัสเซียในเรื่องการนำเสนอข่าวสารบนช่องข่าว โดยโฆษกของเน็ตฟลิกซ์กล่าวว่า "เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ในปัจจุบันแล้ว เราไม่มีแผนที่จะเพิ่มช่องข่าวของรัสเซียเข้าสู่การบริการของเรา ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากช่องข่าวของรัฐบาลรัสเซียได้เผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับรัสเซียในการบุกโจมตียูเครนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว"