นีลเส็นเปิดเผยข้อมูลเรตติ้งว่า ประชาชนประมาณ 38.2 ล้านคน รับชมการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ของสหรัฐ ในการแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ต่อสภาคองเกรส ในคืนวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น (1 มี.ค.)
ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นถึง 42% เทียบกับการแถลงครั้งแรกของปธน.ไบเดนต่อสภาคองเกรสในเดือนเม.ย. 2564 ที่มีผู้ชมประมาณ 26.9 ล้านคน โดยตัวเลขผู้ชมจะนับรวมการรับชมการแถลงฯในภาษาอังกฤษและภาษาสเปนในเครือข่ายโทรทัศน์และเคเบิลทั้งหมด 16 ช่อง
อนึ่ง ช่องฟ็อกซ์ นิวส์ (Fox News) มีผู้ชมการแถลงดังกล่าวมากที่สุดถึง 7.2 ล้านคน ตามด้วยช่องเอบีซี (ABC) ของบริษัทวอลท์ ดิสนีย์ที่ 6.3 ล้านคน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า จำนวนผู้ชมการแถลงของปธน.ไบเดนต่ำกว่ายอดชมการแถลงครั้งแรกของปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ในปี 2561 ที่มีผู้ชมเกือบ 46 ล้านคน โดยในช่วงที่ผ่านมานี้ ผู้ชมรายการสดทางโทรทัศน์ลดลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากหันมาใช้บริการสตรีมมิงแบบออนดีมานด์แทน
ทั้งนี้ ปธน.ไบเดนใช้เวลาปราศรัยประมาณ 1 ชั่วโมง โดยประเด็นสำคัญของการแถลงในครั้งนี้ได้แก่ การแสดงความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ยูเครนและการตัดสินใจไม่ให้เครื่องบินทุกลำของรัสเซียบินผ่านน่านฟ้าสหรัฐ, การสนับสนุนเงินทุนช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ, การเปิดตัวแคมเปญ "Test to Treat" และแจกชุดตรวจโควิด-19 ฟรีให้กับประชาชน, โครงการบูรณะซ่อมแซมสะพานและทางหลวง, แผนการรับมือกับปัญหาเงินเฟ้อ และการระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน