ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำของจีน กล่าวว่า จีนพร้อมที่จะมีบทบาทอย่างมากในการแก้ไขวิกฤตความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ตามที่ทุกฝ่ายมองว่ามีความจำเป็น
ทั้งนี้ ปธน.สี จิ้นผิงกล่าวถ้อยแถลงดังกล่าวในการประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และนายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ ผู้นำเยอรมนี
ปธน.สี จิ้นผิงยังระบุว่า จีน ฝรั่งเศส และเยอรมนีควรร่วมมือกันสนับสนุนการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน
นอกจากนี้ ผู้นำจีนยังได้แสดงความกังวลต่อสถานการณ์ในยูเครน และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้นอย่างที่สุด รวมทั้งป้องกันมิให้สถานการณ์เลวร้ายลงจนควบคุมไม่ได้
ขณะเดียวกัน ปธน.สี จิ้นผิงแสดงท่าทีคัดค้านการที่สหรัฐและชาติตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพื่อตอบโต้การส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน
ทางด้านนายสตีเฟน โรช นักเศรษฐศาสตร์ของมอร์แกน สแตนลีย์ กล่าวว่า ขณะนี้มีบุคคลเดียวในโลกที่จะสามารถโน้มน้าวประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ในการคลี่คลายวิกฤตการณ์ในยูเครน
"ผมคิดว่ามีบุคคลเดียวในโลกที่จะสามารถมีอิทธิพลต่อปธน.ปูติน นั่นก็คือประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำของจีน ซึ่งเขาควรจะฉวยโอกาสนี้ สิ่งดีที่สุดที่จีนสามารถทำได้ในขณะนี้คือการเป็นคนกลางในการเจรจาไกล่เกลี่ยระหว่างรัสเซียและยูเครน" นายโรชกล่าวต่อสำนักข่าว CNBC
ก่อนหน้านี้ จีนได้ปฎิเสธที่จะเข้าร่วมการคว่ำบาตรรัสเซียตามสหรัฐและชาติตะวันตก และได้งดออกเสียงต่อมติของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในการประณามการที่รัสเซียส่งกำลังทหารโจมตียูเครน
นายโรชกล่าวว่า หากจีนยังคงกระชับความสัมพันธ์กับรัสเซีย ก็จะเป็นการดำเนินการที่ผิดพลาด ขณะที่ทั่วโลกกำลังกดดันต่อรัสเซีย ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้จีนถูกตราหน้าว่ามีความผิดร่วมกับรัสเซีย
"ปธน.สี จิ้นผิงจะนิ่งเฉยอย่างนี้ต่อไปไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้จะสร้างจุดด่างพร้อยต่อประวัติของเขา" นายโรชกล่าว