ยูเครนจวกรัสเซียจงใจฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หลังทิ้งระเบิดถล่มโรงพยาบาลเด็ก

ข่าวต่างประเทศ Thursday March 10, 2022 11:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนได้กล่าวหาว่า รัสเซียได้กระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยูเครน หลังจากเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า เครื่องบินรัสเซียได้ทิ้งระเบิดใส่โรงพยาบาลเด็กของยูเครนเมื่อวานนี้ (9 มี.ค.) ซึ่งส่งผลให้ผู้ป่วยจำนวนมากถูกฝังอยู่ภายใต้ซากอาคาร แม้รัสเซียและยูเครนได้ทำข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวเพื่ออพยพประชาชนในเมืองมาริอูโพลแล้วก็ตาม

ทางการยูเครนระบุว่า การโจมตีดังกล่าวซึ่งส่งผลให้สตรีที่เพิ่งคลอดบุตรหลายคนได้รับบาดเจ็บ และทำให้เด็กจำนวนมากเสียชีวิตอยู่ภายใต้ซากอาคารนั้น ถือเป็นเหตุการณ์รุนแรงล่าสุดที่เกิดขึ้น หลังจากกองกำลังรัสเซียบุกโจมตียูเครนล่วงเข้าวันที่ 14 ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์รุกรานประเทศครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2

สภาเมืองมาริอูโพลเปิดเผยว่า โรงพยาบาลเด็กแห่งนี้ได้ถูกโจมตีแล้วหลายครั้ง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทำเนียบขาวของสหรัฐมองว่าเป็นการใช้กำลังทหารอย่างป่าเถื่อนเพื่อไล่ล่าชีวิตพลเรือนที่บริสุทธิ์

ปธน.เซเลนสกีได้ย้ำข้อเรียกร้องให้ชาติตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรกับรัสเซียในระดับที่รุนแรงมากขึ้น เพื่อให้รัสเซียยอมนั่งโต๊ะเจรจาและยุติสงครามที่โหดร้าย พร้อมกับกล่าวว่า การทิ้งระเบิดใส่โรงพยาบาลเด็กถือเป็นข้อพิสูจน์ว่า รัสเซียต้องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยูเครน

ด้านนายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลินเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า "กองกำลังทหารรัสเซียไม่มีเป้าหมายโจมตีพลเรือน พร้อมกับกล่าวว่า การโจมตียูเครนถือเป็นปฏิบัติการพิเศษเพื่อให้มีการปลดอาวุธ

อย่างไรก็ดี กระทรวงการต่างประเทศยูเครนได้เผยแพร่ภาพวิดีโอซึ่งแสดงให้เห็นว่า อาคาร 3 ชั้นของโรงพยาบาลเด็กแห่งนี้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก

หน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ (UN) กำลังตรวจสอบจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์โจมตีโรงพยาบาลเด็กดังกล่าว

ลิซ ธรอสเซลล์ โฆษกหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนของ UN กล่าวว่า "เหตุการณ์ครั้งนี้ยิ่งเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับการใช้อาวุธโดยมิชอบในพื้นที่ที่มีประชาชนอาศัยอยู่ และทำให้มีพลเรือนต้องติดอยู่ในหลายพื้นที่ซึ่งมีการสู้รบ"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ