นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่าความขัดแย้งเกี่ยวกับยูเครนจะลุกลามออกไปจนเกิดเป็นสงครามนิวเคลียร์
ทั้งนี้ ต่อข้อถามของผู้สื่อข่าวรายหนึ่งที่ว่า เขาคิดว่าวิกฤตการณ์ในยูเครนจะทำให้เกิดสงครามนิวเคลียร์หรือไม่ นายลาฟรอฟกล่าวว่า "ผมไม่ต้องการที่จะเชื่อเช่นนั้น และผมก็ไม่เชื่อว่าจะเกิดขึ้น"
นอกจากนี้ นายลาฟรอฟยังปฏิเสธข่าวที่ว่า รัสเซียเตรียมการโจมตีประเทศในบอลติกซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของอดีตสหภาพโซเวียต ได้แก่ ลิทัวเนีย ลัตเวีย และเอสโทเนีย โดยขณะนี้ประเทศเหล่านี้ได้เป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป (EU) และองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต)
นายลาฟรอฟระบุว่า รัสเซียไม่วิตกต่อการที่สหรัฐและชาติตะวันตกได้คว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย เนื่องจากยังคงมีหลายประเทศที่ต้องการซื้อพลังงานจากรัสเซีย
"เราจะไม่วิงวอนให้ชาติตะวันตกซื้อน้ำมันและก๊าซจากเรา ถ้าเขาต้องการซื้อจากแหล่งอื่นก็ไม่เป็นไร เพราะเรามีตลาดอื่นอยู่แล้ว" นายลาฟรอฟกล่าว
ทั้งนี้ นายลาฟรอฟได้ประชุมร่วมกับนายดมิโทร คูเลบา รมว.ต่างประเทศยูเครน ซึ่งจัดขึ้นที่ตุรกีในวันนี้
อย่างไรก็ดี ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิง หรือการกำหนดเส้นทางปลอดภัยสำหรับชาวยูเครนที่จะอพยพออกจากประเทศแต่อย่างใด
"เราได้หารือกันเกี่ยวกับการหยุดยิงเป็นเวลา 24 ชั่วโมง แต่ก็ไม่ประสบความคืบหน้าแต่อย่างใด โดยการเจรจาเป็นไปอย่างยากลำบาก" นายคูเลบากล่าวในการแถลงข่าว
นายคูเลบากล่าวว่า รัสเซียต้องการให้ยูเครนยอมแพ้
"พวกเขาจะไม่มีวันได้รับสิ่งนี้ ผมขอย้ำว่ายูเครนจะไม่มีทางยอมจำนน" นายคูเลบากล่าว
นายคูเลบายังแสดงความผิดหวังต่อการที่นายลาฟรอฟได้เข้าร่วมการเจรจา แต่ไม่มีอำนาจในการทำข้อตกลงเกี่ยวกับการหยุดยิง
"ดูเหมือนว่ามีผู้ที่อยู่ในรัสเซียกำลังบงการการตัดสินใจดังกล่าว" เขากล่าว
อย่างไรก็ดี นายคูเลบากล่าวว่า เขายังคงพร้อมที่จะเจรจาต่อไป
ทางด้านนายลาฟรอฟกล่าวว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เปิดกว้างในการพบปะกับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน
"ท่านประธานาธิบดีปูตินไม่ปฏิเสธที่จะพบกับคุณเซเลนสกี แต่ก่อนที่สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ เราจำเป็นจะต้องมีการเตรียมการเบื้องต้นก่อน" นายลาฟรอฟกล่าว